สำนักงานอัยการนนทบุรีนำตัว 6 ผู้ต้องหาแก๊งบนเรือสปีดโบตใน "คดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา" พร้อมส่งฟ้องตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมา ยืนยันไม่มีหลักฐานว่าเป็นการฆาตกรรม


วันที่ 3 ส.ค. 65 สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักอัยการจังหวัดนนทบุรี โดยนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนางสาวสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ร่วมแถลงสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในคดีแตงโม ซึ่งเป็นคดีที่สำนักอัยการจังหวัดนนทบุรีได้รับจากพนกงานสอบสวบ สภ. นนทบุรี คือคดีอาญาที่ 234/2565 คดีระหว่างนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน กับพวกเป็นผู้กล่าวหา โดยมีผู้ต้องหาในคดีทั้งหมด 6 คน ดังต่อไปนี้ 1.นายตนุภัทร หรือ ปอ เลิศทวีวิทย์ 2.นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ 3.นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ 4.นายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ กีรติสุทธิสาธร 5.นางสาวอิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ และ 6.นายภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี โดยในการพิจารณาสำนวนคดีนี้ วันนี้ (3 ส.ค. 65) ทางสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โดยคณะทำงานภายใต้การกำกับของ นายธีระนนท์ ไหวดี อธิบดีอัยการภาค 1 ได้มีความเห็นและทราบการมีความเห็นและคำสั่งของพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีโดยถี่ถ้วนสมบูรณ์ และมีความเห็นและคำสั่งเสร็จสิ้นแล้ว ดังต่อไปนี้

ผู้ต้องหาที่ 1 นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ (ปอ) ถูกพนักงานอัยการฯ สั่งฟ้องทั้งหมด 5 ข้อหา
1. ความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2. ความผิดฐานแจ้งความเท็จ อันเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดทางอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
3. ความผิดฐานเป็นผู้ทำการในเรื่องตำแหน่งที่กฎบังคับสำหรับการตรวจเรือกำหนดให้ต้องมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ และผู้ต้องการะทำโดยไม่มีใบรับรองที่ถูกต้อง
4. ความผิดฐานเททิ้งหรือทำด้วยประการใด ๆ แก่สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
5. ความผิดฐานเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หรือ "อัลปราโซแลม" ในประเภทที่ 2 ซึ่งผิดกฎหมาย

ผู้ต้องหาที่ 2 นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ (โรเบิร์ต) ถูกพนักงานอัยการฯ สั่งฟ้องทั้งหมด 4 ข้อหา
1. ความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2. ความผิดฐานใช้เรือที่ไม่มีใบอนุญาต ใช้เรือที่สิ้นอายุแล้ว
3. ความผิดฐานเป็นผู้ทำการในเรื่องตำแหน่งที่กฎบังคับสำหรับการตรวจเรือกำหนดให้ต้องมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ และผู้ต้องหากระทำโดยไม่มีใบรับรองที่ถูกต้อง
4. ความผิดฐานเททิ้งหรือทำด้วยประการใด ๆ แก่สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ผู้ต้องหาที่ 3 นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ (แซน) ถูกพนักงานอัยการฯ สั่งฟ้องทั้งหมด 1 ข้อหา
1. ความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ผู้ต้องหาที่ 4 นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร (จ๊อบ) ถูกพนักงานอัยการฯ สั่งฟ้องทั้งหมด 3 ข้อหา
1. ความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2. ความผิดฐานช่วยเหลือหรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นมิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
3. ความผิดฐานเททิ้งหรือทำด้วยประการใด ๆ แก่สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ผู้ต้องหาที่ 5 นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ (กระติก) ถูกพนักงานอัยการฯ สั่งฟ้องทั้งหมด 3 ข้อหา
1. ความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2. ความผิดฐานแจ้งความเท็จ อันเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดทางอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
3. ความผิดฐานช่วยเหลือหรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นมิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด

ผู้ต้องหาที่ 6 นายภีม ธรรมธีรศรี (เอ็ม) ถูกพนักงานอัยการฯ สั่งฟ้องทั้งหมด 2 ข้อหา
1. ความผิดฐานแจ้งความเท็จ อันเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดทางอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
2. ความผิดฐานช่วยเหลือหรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นมิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด

ต่อมาพนักงานอัยการได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนขึ้นรถตู้ตำรวจไปส่งฟ้องยังศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดมีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเดินขึ้นเข้าไปยังห้องพิจารณา และหากในวันนี้ (3 ส.ค. 65) อัยการมีคำสั่งฟ้องคดีหลัก ภายใน 1-2 วันนี้ "แซน" จะเริ่มเดินหน้าฟ้องกลับคดีแรกทันที เป็นคดีที่มีผู้ไปยื่นฟ้องตรงในข้อหาฆาตกรรม โดยมีผู้ที่จะถูกยื่นฟ้อง 2 คน ซึ่งจะไปฟ้องตรงต่อศาลจังหวัดนนทบุรีและคนบนเรือจะยื่นฟ้องเหมือนกันทุกคน แต่จะแยกฟ้องกันคนละสำนวน