"กรมการค้าภายใน" เผยราคาชุดสังฆภัณฑ์ ช่วงก่อนเข้าพรรษาส่วนใหญ่ทรงตัว ขึ้นอยู่กับขนาด รูปแบบ แนะประชาชนเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ ก่อนซื้อ ขณะสินค้าอุปโภค-บริโภคยังมีเพียงพอ หลายห้างจัดโปรฯ หั่นราคาต่อเนื่อง

 

วันที่ 12 ก.ค. 2565 ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่ากรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 15 ชุด ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และเทียนพรรษา พร้อมกำชับให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน โดยชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมต้องแสดงราคาจำหน่ายปลีก พร้อมทั้งแสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาของสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรม รวมทั้งค่าภาชนะบรรจุด้วย และต้องมีขนาดตัวอักษรและตัวเลข ตั้งแต่ขนาด 16 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า และต้องจำหน่ายตรงตามราคาที่แสดง นอกจากนี้ได้กำชับไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าหรือบริการที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชนด้วย

โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบการในช่วงหลายวันที่ผ่านมา รวมทั้งการตรวจสอบ ณ ร้านจำหน่ายสังภัณฑ์ บริเวณหน้าวัดลาดปลาเค้า ในวันนี้ (12 กรกฎาคม 2565) พบว่า ชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรมส่วนใหญ่มีราคาทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีราคาที่หลากหลายให้เลือกตามความต้องการ ตั้งแต่ราคาชุดละ 49 – 1,500 บาท ราคาเทียนพรรษาจำหน่ายแพ็กคู่ ราคาคู่ละ 69 – 3,000 บาท และราคาต้นละ 240 -1,700 บาท

ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ห้างค้าส่งค้าปลีกต่างๆ ยังคงจัดโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่องและมีสินค้าที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยจากการสำรวจสถานการณ์ ณ ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขารามอินทรา กรุงเทพฯ พบว่ามีการลดราคาสินค้าจำเป็นต่างๆ ทั้งของกินของใช้หลากหลายรายการ เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก ซอสปรุงรส ข้าวสารถุงทั้งข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว น้ำอัดลม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดสังฆทาน และเทียนพรรษา เป็นต้น ส่วนลดสูงสุด 50% รวมทั้งมีโปรโมชั่นอื่นๆ เช่น สินค้าซื้อ 1 แถม 1 และซื้อ 2 แถม 1

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม สินค้าอุปโภคบริโภคมีให้เลือกหลายแบบหลายราคา จึงแนะนำให้ประชาชนเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ