"ชลน่าน" มั่นใจข้อกล่าวหาศึกซักฟอก ส่งศาลเอาผิดรัฐบาลได้ เชื่อมีการเรียกกล้วยแพงกว่าเดิม เหน็บพรรคเล็กคิดผิดฆ่าตัวตายทางอ้อมใช้สูตรหาร 500 อาจไม่ได้ สส.บัญชีรายชื่อสักคน

 

วันที่ 11 ก.ค. 2565 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย ว่า ขณะนี้เหลือเพียงการซักซ้อม และจัดลำดับผู้อภิปราย ซึ่งมอบให้ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นผู้ดูแล

ทั้งนี้ จากข้อกล่าวหาที่แบ่งไว้เป็นกลุ่ม จะมีข้อมูข้อเท็จจริงข้อกฎหมายปรากฎให้เห็น เหมือนกับขึ้นศาล แต่เป็นศาลประชาชนในสภา เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่กล่าวหามีข้อเท็จจริงอย่างไร มั่นใจว่าประชาชนจะไม่ผิดหวัง เพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายแล้ว และประชาชนรู้อยู่แก่ใจแล้ว ว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลล้มเหลว การอภิปรายเป็นเหมือนการตอกย้ำให้เห็นเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งประเด็นที่เป็นข้อกล่าวว่าการกระทำผิดทุจริตก็เตรียมการที่จะส่งศาลอยู่แล้ว ถ้าเป็นเรื่องจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมายก็จะส่ง ป.ป.ช.

ส่วนจะมีรัฐมนตรีคนใด ที่หลุดจากตำแหน่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า ขอให้ไปลุ้นในสภา ถ้าบอกตอนนี้จะมีรัฐมนตรีที่ก้นร้อนแต่มั่นใจในข้อมูลที่ผู้อภิปรายมี

นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวถึง กระแสยุทธศาสตร์ขยายแบงค์พัน เพื่อรองรับกฎกติกาแบบใหม่ ว่า ตนเองไม่ได้พูดว่า ยุทธศาสตร์ขยายแบงค์พัน เพียงแต่บอกว่าถ้ากลไกกติกาบิดเบี้ยวแบบนี้ ภาคการเมืองย่อมมีวิธีการ ถ้า หากมีการตั้งพรรคมาใหม่เพื่อจะเอาคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าทำได้จะได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะไม่มี สส.เขต เอาแค่ 2-3 พรรค หาร จำนวน สส.พึงมี นั่นคือจำนวน สส.บัญชีรายชื่อที่จะได้รับ เพราะไม่มี สส.เขต ดังนั้นสิ่งที่พรรคเล็กลืมคิดถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 140,000 คะแนน จะไม่มีพรรคใดที่ได้ สส.บัญชีรายชื่อเลย เป็นการฆ่าตัวเองทางอ้อมโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ส่วนจะควบคุมเสียงโหวตในสภา ที่จะไม่ทำให้มีการซื้อขายกล้วยกัน ได้หรือไม่ นั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า คงควบคุมไม่ได้และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ส่วนจะรุนแรงมากขนาดไหนคงตอบไม่ได้ เพราะเงื่อนไขต่าง ๆ ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แล้ว ถ้าหากตนเป็นฝ่ายที่ขอกินกล้วย ตนก็ยิ่งขอแพงมากกว่าเดิม แต่ส่วนตัวคิดว่า การเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรต้องทำเพื่อประชาชน ถ้ามัวแต่จะไปกินกล้วยคือจบชีวิตของการเป็นผู้แทนได้เลย เพราะ ฉะนั้น ส.ส.เหล่านี้คิดหนักระหว่างกล้วย 1 หวี กับอนาคตที่จะทำเพื่อประชาชน ชื่อเสียงต่าง ๆ ที่จะอยู่ในสังคม ตนคิดว่าจะคิดถึงมุมนี้มากกว่าที่จะสร้างโอกาสในการสร้างสิ่งดี ๆ ให้ประชาชน