ปู่ย่า ชาว จ.บุรีรัมย์ วอนโรงเรียนปรับเปลี่ยนวิธีทำโทษเด็ก หลังหลานวัย 5 ขวบ ป่วยโรคลมชัก ถูกครูใช้ถาดหลุมอะลูมิเนียมตีหัว หวาดผวาไม่อยากไปเรียน


นายสามนต์ และ นางรัญจวน สามีภรรยา ชาวตำบลหนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ในฐานะปู่และย่าของน้องเปรม อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอชำนิ เรียกร้องให้ครูในโรงเรียน ปรับเปลี่ยนวิธีการทำโทษเด็กนักเรียน เนื่องจากหลานถูกครูใช้ถาดหลุมอะลูมิเนียม สำหรับใส่อาหาร ตีที่ศรีษะ ขณะที่หลานต่อแถวเดินไปรับถาดอาหารกลางวันพร้อมกับเพื่อน ๆ จนหลานร้องไห้ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีอาการปวดศรีษะ และมีอาการหวาดกลัวไม่อยากไปโรงเรียน

เบื้องต้นได้พาหลานไปหาหมอเพราะเกรงจะมีอาการข้างเคียง เนื่องจากหลานมีประวัติป่วยเป็นโรคลมชัก

ทั้งนี้ ปู่และย่า ของน้องเปรม กล่าวว่า ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังไปรับหลานกลับจากโรงเรียน พบว่ามีอาการซึมผิดปกติแล้วใช้มือตบที่หัวตัวเอง โดยหลานเล่าให้ฟังว่าถูกครูใช้ถาดหลุมตีหัว 2 ครั้ง เพื่อนคนอื่นก็ถูกใช้ถาดตีหัวด้วย เพราะหยอกเล่นกันขณะเข้าแถวไปกินข้าวกลางวัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากจะเอาผิดครูหรือทางโรงเรียน แค่อยากจะฝากให้ปรับเปลี่ยนวิธีทำโทษเด็ก หากเด็กดื้อหรือทำผิด ควรจะมีวิธีทำโทษที่ไม่รุนแรง เข้าใจว่าหลานอาจจะดื้อซนบ้าง แต่เขายังเด็กก็ดื้อซนไปตามวัย ครูควรจะมีวิธีการดูแลจัดการเด็กที่ดีกว่านี้