“กมธ.กาสิโน” เปิดโพลคนไทยเห็นด้วยเกิน 80% ตั้งกาสิโน ชี้แจงไทม์ไลน์ 20 ก.ค.นี้ เตรียมลงมติรับรองรายงานฉบับสมบูรณ์ ก่อนเสนอ “ประธานสภาฯ”  พิจารณาต่อ

 

 

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฏร แถลงความคืบหน้าหลังจากได้เดินทางไปศึกษางานและจัดสัมมนาในพื้นที่ต่างๆ คือ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.65 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ,ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25-26 มิ.ย.65 ที่ จ.เชียงราย และ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2-3 ก.ค.65 ที่ จ.สระแก้ว

โดยสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 5 ประเด็น

1.ด้านความมั่นคง และมาตรการป้องกันการพนันผิดกฎหมายในภาพรวม และด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแนวทางการควบคุมการบริหารจัดการการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรฯ

2.ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการจัดเก็บรายได้และภาษีจากการเปิดดังกล่าว

3.ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ความคุ้มค่าในการลงทุน และความเหมาะสมเกี่ยวกับสถานที่ ภูมิศาสตร์ในการเปิด

4.ด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบเชิงวัฒนธรรมจากการเปิด

5.ด้านความคุ้มค่าในการลงทุนรูปแบบการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และรูปแบบธุรกิจ Gaming ที่เหมาะสม ทั้ง ออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจของประเทศไทย

โดยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร พบว่า เห็นด้วย 80.67%

โดยแบ่งเป็นเหตุผลด้านเศรษฐกิจ สูงสุด มองว่าคนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 69.33% / เกิดการลงทุนในพื้นที่ 51.18% / การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 39.23% / เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 44.27% / แก้ไขปัญหาเงินรั่วไหลออกนอกประเทศ 32.68%

ส่วนเหตุผลด้านสังคม สูงสุด เกิดความเจริญในชุมชน 61.35% / คุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ดีขึ้น 45.33% / เกิดการพัฒนาทักษะแรงงานในพื้นที่ 41.08% / เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 26.91%

สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเปิด 56.13% คือ กทม.และพื้นที่อีอีซี อยู่ในรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา / จังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลัก 54.25% และ พื้นที่ชายแดน (ที่มีด่านตรวจคนเข้าเมือง) 27.67%

ขณะที่ข้อกังวล 5 อันดับแรก สูงสุด ปัญหาอาชญากรรม 54.49% / ปัญหาหนี้สิน 52.40% / ปัญหาการถูกครอบงำจากต่างชาติ 39.71% / ปัญหาครอบครัว 37.56% / ปัญหาด้านเงินลงทุน 30.49% ซึ่งทั้งหมดเป็นผลสำรวจโดยวิทยาลัยการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา

นายจักรพล กล่าวว่าขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯ จากนี้ จะพิจารณาและลงมติเห็นชอบกับรายงานฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ และภายในวันที่ 27 ก.ค.65 จะนำเสนอรายงาน พร้อมข้อสังเกตไปยัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏรเพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป