“นายกฯ” กางเเผนบริหารจัดการน้ำยาว 20 ปี ช่วยไทยแก้ภัยแล้งตั้งแต่ปี 2563 พร้อมเปิดเปิดหลักสูตรชลกร นำเทคโนโลยีบริหารน้ำอย่างยั่งยืน

 


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานสัมมนาการบริหารจัดการน้ำนานาชาติประจำปี 2565 ที่มุ่งให้เกิดการนำองค์ความรู้ศาสตร์พระราชา รัชกาลที่ 9 ร่วมกับความรู้สากล ซึ่งไทยได้ผลักดันหลักสูตรการศึกษา "ชลกร" ในระดับ ปวช.ในวิทยาลัยแล้วในหลายจังหวัด และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำประเทศออกจากวิกฤตประเทศ ด้านการเกษตร ผ่านการบริหารจัดการน้ำ ที่เป็นทรัพยากรที่มีค่าอย่างมาก

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนหนึ่ง ถึงการสัมมนา ที่รัฐบาลพยายามสนับสนุน พัฒนา แลกเปลี่ยนแนวทาง แนวปฎิบัติมาโดยตลอด และปีนี้ เป็นครั้งแรกที่สัมมนาในประเทศไทย และประเทศไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศ สำหรับประเทศไทยแล้ว การบริหารจัดการน้ำ ให้ความสำคัญมาโดยตลอดเพราะน้ำจะต้อง สะอาด เพียงพอเพื่อการใช้เพื่อการ อุปโภค บริโภค อุตสาหกรรมและ รักษาระบบนิเวศน์ ปัจจุบันนี้หลายอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้อากาศเปลี่ยนแปลง และเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ ต้องปรับตัว ตั้งรับ และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งวันนี้ประเทศมีการจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำ 20 ปี ที่แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อให้น้ำเพียงพอ เหมาะสมกับพื้นที่ และความต้องการใช้ ทั้งน้ำใต้ดินและบนดิน เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม เรื่องนี้ รัฐบาลมีกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ มีคณะกรรมการลุ่มน้ำ ที่เป็นข้อกลางในการประสาน บูรณการในแต่ละพื้นที่ รวมถึงมีศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ เพื่อใช้เพื่อการบริหารจัดการน้ำ อีกด้านหนึ่งต้องใช้น้ำอย่างประหยัด ทำทุกอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงอยาก ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ ถ้าไม่ร่วมมือก็ทำไม่ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ในช่วงปี 2563 และ 2564 เป็น 2 ปีผ่านมาจะเห็นว่า ประเทศไม่มีการประกาศ พื้นที่ภัยแล้ง ทำให้เหลืองบประมาณไปใช้ในภารกิจอื่น มีแต่เกิดปัญหา น้ำท่วม ในบางพื้นที่เท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ที่ความร่วมมือเป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องทำอย่างต่อเนื่อง