"อัจฉริยะ" พร้อมทีมโดรนใต้น้ำ เดินหน้างมหาหลักฐานสำคัญ "มีด" กรีดขา คาดใช้ฆาตกรรมแตงโม โดยใช้เวลาค้นหานานกว่า 3 ชม. และต้องยุติการค้นหาไว้ก่อน เนื่องจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ จะเรียกประชุมทีมทนาย 4 มิ.ย.นี้ 

 

วันที่ 31 พ.ค.65 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมชุดนักประดาน้ำและโดรนสำรวจใต้น้ำ เพื่อมาค้นหาพยานหลักฐานที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

โดยการตรวจสอบหาพยานหลักฐานของวันนี้ (31 พ.ค.65) จะตรวจใน 3 จุดหลัก ๆ คือบริเวณหน้าวัดค้างคาว และเลยหน้าวัดออกไป รวมทั้งบริเวณท่าจอดเรือบรรจุทราย ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ได้มาจากการตรวจสอบพิกัดทางดาวเทียม ซึ่งพบว่าเป็นจุดที่ต้องสงสัยว่ามีการทิ้งหลักฐานที่เป็นมีดหรือที่เปิดขวดไวน์ คาดว่าใช้กรีดขาของดาราสาว

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะกล่าวว่า บาดแผลที่ขาขวาของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือตามที่นิติเวชฯ ได้ชันสูตรไว้ และแตงโมถูกทำร้ายบนบก ก่อนที่จะเสียชีวิตในน้ำหรือเสียชีวิตอย่างทรมาน โดยวันนี้ (31 พ.ค.65) จะค้นหาหลักฐานประมาณ 3-4 ชั่วโมงตามจุดดังกล่าว หากพบก็จะส่งไปชันสูตรว่ามีคราบเลือดของแตงโมอยู่หรือไม่

ถึงแม้ว่าคดีนี้เกิดเหตุมาหลายเดือนแล้ว แต่เชื่อว่า หลักฐานยังอยู่ใต้แม่น้ำอย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้ (31 พ.ค.65) ได้นำอุปกรณ์ที่เป็นโดรนสำรวจใต้น้ำมาใช้ค้นหาร่วมกับนักประดาน้ำด้วย โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าโดรนใต้น้ำสามารถดำน้ำได้ลึกประมาร 100 เมตร กล้องมีความละเอียด 4K สามารถบันทึกภาพ และวิดีโอได้ 30 เฟรมต่อวินาที สามารถสแกนหาวัตถุที่อยู่ใต้ดิน โคลนได้ลึกประมาณ 1 ฟุต โดยเครื่องจะส่งภาพมาดูได้ในระบบเรียลไทม์ มั่นใจว่าสามารถตรวจหาวัตถุที่ตกอยู่มานานได้ หากว่ามีการทิ้งไว้จริง เนื่องจากที่ผ่านมาก็เคยค้นหาเหรียญเก่าในแม่น้ำเจ้าพระยาอายุกว่า 100 ปีมาแล้ว ซึ่งโดรนใต้น้ำที่ใช้มีราคาสูงถึง 2 แสนบาท และมีเพียง 7 เครื่องในไทย

สำหรับเรื่องคดีความ นายอัจฉริยะกล่าว่า เตรียมรวมรวมพยานหลักฐานให้นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโมฟ้องคดีเองก่อนวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันที่อัยการจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำสั่งคดี หลังจากที่เลื่อนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยยืนยันว่ามีพยานหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีในความผิดฐานฆาตกรรมได้ และผลการตรวจเสื้อผ้าของบุคคลบนเรือสปีดโบ๊ต 1 ใน 5 คน มีคราบเลือดของแตงโมอยู่ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าตำรวจได้ส่งหลักฐานนี้ไปในสำนวนหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า วันพรุ่งนี้จะไม่ไปยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษแล้ว เพราะเชื่อว่าดีเอสไอจะไม่รับเป็นคดีพิเศษ

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะยังระบุว่า หลักฐานที่ได้มาไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ และไม่ได้ใช้ภาพของ "บังแจ็ค" ที่นำโทรศัพท์ของแตงโมไปตรวจสอบ แต่ถ้าส่งมือถือกลับมาก็จะนำมาตรวจสอบก่อน แต่ภาพหรือหลักฐานอื่น ๆ ที่ทางชมรมหามาได้นั้นมีมากกว่าของบังแจ็ค

ส่วนกรณีที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา วิจารณ์การทำงานในคดีนี้ นายอัจฉริยะกล่าวว่าเป็นการพูดในลักษณะข่มขู่อดีตลูกความ และไม่มีจรรยาบรรณของการเป็นทนายความ ขอให้หยุดการเคลื่อนไหวได้แล้ว เพราะแม่แตงโมรู้สึกไม่สบายใจที่นายมงคลกิตติ์ได้พูดไปทางโทรศัพท์ ไม่ใช่เป็นการข่มขู่ แต่โมโหที่นายเดชาเข้ามาวิจารณ์การทำงานอีก หลังจากที่ถอนตัวออกจากการเป็นทนายแล้ว

ก่อนที่ทีมประดาน้ำ และชุดโดรนใต้น้ำของนายอัจฉริยะจะลงเรือไปงมค้นหาหลักฐาน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางมาจุดธูป ตามความเชื่อ เพื่อขอให้พระแม่คงคา และดวงวิญญาณของแตงโม ช่วยให้ภารกิจครั้งนี้สำเร็จ เจอหลักฐานชิ้นสำคัญ ตามที่นายอัจฉริยะคาดการณ์ โดยนายมงคลกิตติ์กล่าวว่า วันที่เจอศพแตงโมเขาก็จุดธูปแบบนี้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ทีมประดาน้ำ และทีมโดรนใต้น้ำ ใช้เวลาปฏิบัติภารกิจนานกว่า 3 ชั่วโมง ในการค้นหา มีดหรือที่เปิดขวดไวน์ ซึ่งนายอัจฉริยะ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโม  ทั้งหมดลงเรือไปตั้งแต่ 13.00 น. จนถึง 16.00 น. และใช้เวลาวนอยู่บริเวณใต้สะพานพระราม 7 นานกว่าจุดอื่น ๆ เพราะมีข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิด วันเกิดเหตุว่าสปีดโบ๊ตของ 5 คน วนอยู่จุดนี้นานมากอาจมีการทิ้งหลักฐานบริเวณนี้ ซึ่งจากการใช้อุปกรณ์ โดรนใต้น้ำช่วยค้นหา แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากกระแสน้ำด้านล่างแรงจนทำให้โดรนพลิกไปมา และลงไปได้เพียง 7-15 เมตรเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถมองเห็นใต้น้ำได้ และแยกไม่ออกระหว่างขยะใต้น้ำกับโลหะ   

และอีกปัญหาหนึ่งคือฝนที่ตกอย่างหนัก ทำให้ต้องยุติการค้นหาก่อน โดยไม่พบหลักฐานใด ๆ ทั้งนี้นายอัจฉริยะกล่าวว่า หลังจากนี้จะไม่ค้นหาหลักฐานชิ้นนี้แล้ว เพราะหลักฐานที่มีเพียงพอกับการเอาผิด แต่ที่มาหาครั้งนี้ ก็อยากจะให้โทษที่เตรียมฟ้องหนักมากยิ่งขึ้น

ซึ่งจะมีการเรียกประชุมทีมทนายความในวันที่ 4 มิ.ย. อีกครั้ง ส่วนกำหนดการที่จะพาแม่แตงโมเข้าพบผู้บัญชาการ สอท. จะมีการเลื่อนไปเป็นวันที่ 7 มิ.ย.นี้