"ธรรมนัส" แถลงด่วนเคลียร์ปมพรรคแตก ยอมรับต้องเลือก ส.ส. 18 คน เพื่อเดินหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยต่อ มอง "พล.อ.วิชญ์" ใช้ระบบทหารปกครองนักการเมืองไม่ได้ ยังแทงกั๊กจุดยืนข้าง "บิ๊กตู่" ได้หรือไม่ ย้ำโหวตศึกซักฟอก ยึดประโยชน์ประชาชน-ไม่คิดหวนคืนพปชร. เผย มีโลกใหม่แล้ว

 

วันที่ 25 พฤษภาคม 2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย นัดแถลงข่าวด่วน ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา จนนำไปสู่การที่กรรมการบริหารพรรค 15 คนลาออกว่า ตนเองพาพี่น้อง ส.ส. 18 คนออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ และรับปากจะดูแลพวกเขาในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการกลับเข้ามาเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น ทั้ง 18 ชีวิตที่ออกมา ฝากความหวัง และอนาคตการเมืองไว้กับตนเอง

เมื่อเกิดเรื่องที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ เพราะอยู่ต่างในต่างประเทศ รู้เพียงว่า ส.ส.หลายคนไม่สบายใจ จึงตัดสินใจลาออก ตนเองก็เคารพการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 คน แต่ตนเองยังไม่ได้ลาออก ประกอบกับตนเองเคยให้สัมภาษณ์แล้วว่า กรรมการบริหารพรรคชุดนี้เป็นชุดเฉพาะกิจเท่านั้น และจะมีการปรับโครงสร้างกรรมหารบริหารพรรค รวมถึงตำแหน่งสำคัญอยู่แล้ว เพื่อให้พรรคมีจุดขายที่ชัดเจน เป็นความหวังของคนไทยทั้งแผ่นดินได้

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพล.อ.วิชญ์ แล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองยังเคารพนับถือเหมือนเดิม แต่คิดว่าพล.อ.วิชญ์ ไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของพรรคที่ไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อ ส.ส.18 คนไม่สบายใจ ตนเองก็ต้องรักษาคนเหล่านี้ไว้ก่อน ส่วนจะไปพูดคุยเคลียร์ใจกับ พล.อ.วิชญ์หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สถานะของพล.อ.วิชญ์ ตอนนี้เป็นคนนอก ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว ตนเองเคารพการตัดสินใจของท่าน และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์

พร้อมชี้แจงว่า ตอนนี้ทุกอย่างในพรรคเศรษฐกิจไทยยังเหมือนเดิม มีเพียงพล.อ.วิชญ์ ที่ลาออกไป คณะกรรมการว่าที่ผู้สมัครส.ส.อยู่ที่เดิมหมด ดังนั้นไม่กระทบต่อพรรค และพรรคไม่ได้แตกเหมือนกับที่เป็นข่าวด้วย

"พรรคเศรษฐกิจไทย มีทุกอย่างพร้อมแล้ว เราเพียงไปเชิญท่านมานั่งอยู่ข้างบน แต่มันมีอะไรหลาย ๆ เรื่องที่ท่านอาจไม่คุ้นเคยกับการเมือง เพราะชีวิตท่านอยู่แต่ในกรมในกอง อย่างที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์ แต่สังคมการเมืองมันไม่ใช่ เราไม่สามารถใช้ระบบทหาร มาปกครองนักการเมืองได้ นี่อาจทำให้ท่านไม่สบายใจ"

ทั้งนี้ เมื่อสักครู่ตนเองได้เรียกประชุมส.ส.ทั้งหมดแล้ว ก็ชัดเจนว่าจะมีการประชุมใหญ่ เพื่อหาหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รวมถึงกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เมื่อถามว่า จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเองหรือไม่ ด้านร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคว่า จะเลือกใครขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค แล้วแต่ที่ประชุมเห็นสมควร แต่ส่วนตัวพร้อมทำทุกหน้าที่

ด้านร้อยเอกธรรรมนัสยังกล่าวถึงจุดยืนของการทำงานในสภา โดยย้ำว่า จุดยืนพรรคเศรษฐกิจไทย อยู่ข้างประชาชน ดังนั้น ในการพิจารณาวาระสำคัญต่าง ๆ เราจะพิจารณาภายใต้ประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย เผย จุดยืนยังเหมือนเดิม โดยจะพิจารณาเป็นรายบุคคล ซึ่งส.ส. ของเศรษฐกิจไทยที่สามารถโหวตได้ 16 เสียง หากรัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ และเกิดประโยชน์กับประชาชน เราก็จะไม่คัดค้าน แต่หากมีการทุจริตคอร์รัปชัน และทำให้ประเทศเสียหาย เราจะไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด

เมื่อถามจุดยืนของพรรค ยังอยู่เคียงข้างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวย้ำว่า พรรคชัดเจนมาตลอด หากรัฐบาลทำในสิ่งถูกต้อง ไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ เราก็สนับสนุนรัฐบาล แต่หากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ พี่น้องประชาชนชาชนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า เราจำเป็นต้องทำตามจุดยืนของเรา

เมื่อถามกรณีกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจไทย เตรียมจับมือกับฝ่ายค้าน เพื่อล้มพล.อ.ประยุทธ์ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้บอบช้ำมามากพอแล้ว ดังนั้นการที่จะทำอะไร โดยไม่มีเหตุมีผล เอาแต่อารมณ์ตัวเองแบบนั้น ไม่ได้เด็ดขาด เพราะอนาคตของประเทศเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นหากฝ่ายค้านเห็นว่า ไม่ถูกต้องและมีข้อมูลสนับสนุน ก็จะนั่งพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลทุกเรื่อง ไม่ใช่สไตล์ของพรรคเศรษฐกิจไทย

ด้านร.อ.ธรรมนัส ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้พูดคุยกับพรรคเล็ก โดยเฉพาะนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้ากลุ่ม 16 และจะมีการนัดหารือถึงปัญหาบ้านเมืองในอีก 2 วันข้างหน้านี้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมชวนร.อ.ธรรมนัส ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า มีรัฐมนตรีของพปชร. ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ยืนยันแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐ มีโครงสร้างทุกอย่างครบแล้ว ดังนั้นเราจะไปแทรกแซงอะไร และพล.อ.ประวิตรได้มอบหมายให้กรรมการบริหารพรรครับผิดชอบ จึงย้อนถามว่า "หากให้กลับไปจะไปทำอะไร กลับไปทะเลาะกันเหมือนเดิมไหม ไม่ใช่ครับ ผมออกมาแล้วผมมีโลกใบใหม่ของผมแล้ว ถ้ากลับไปแล้วเป็นสังคมเดิม ๆ ผมไม่กลับอย่างเด็ดขาด ไม่มีเรื่องนี้ และเท่าที่ผมทราบในที่ประชุมพลังประชารัฐเมื่อวานนี้ ไม่มีประเด็นเรื่องพวกนี้"

ส่วนเมื่อถามความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับพล.อ.ประวิตรนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แม้จะอยู่คนละพรรค ตนเองก็ยังเคารพนับถือ หลาย ๆ เรื่องตนเองก็เข้าไปปรึกษาพล.อ.ประวิตร แต่ไม่ใช่เรื่องการเมือง พร้อมยืนยันที่ตนเองเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ ไม่ได้ไปพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี