ย้อนรอย 'ข้าวเหนียวมะม่วง' ขนมหวานไทยอันเลื่องชื่อในต่างแดน-ถูกปากผู้คนทั่วโลก มีที่มา และถือกำเนิดได้อย่างไร 

 

หลังจากที่ แร็ปเปอร์สาวชาวไทยอย่าง 'มิลลิ' ได้ไประเบิดความสามารถของเธอบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง 'โคเชลลา' แล้ว อีกสิ่งที่เธอทำให้ทั้งโลกต้องจดจำเธอนั่นก็คือ 'ข้าวเหนียวมะม่วง' เนื่องจากเธอได้ไปกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์บนเวที ทำเอาเมนูขนมหวานชื่อดังที่ชาวต่างชาติคุ้นหูกันดีอยู่แล้วในชื่อภาษาอังกฤษคือ 'Mango sticky rice' แต่หลังจากที่ 'มิลลิ' เอาข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นเวทีโคเชลลา ทำให้ยอดค้นหา 'Mango sticky rice' พุ่ง เพราะฉะนั้นวันนี้ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 จะพาทุกคนไปย้อนรอยที่มาของ 'ข้าวเหนียวมะม่วง' กันสักหน่อย

ย้อนรอยที่มา 'ข้าวเหนียวมะม่วง' มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่

อ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์ และพงศาวดารไทยนั้น ไม่มีบันทึกชี้ชัดว่า ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ ถือกำเนิดมาในสมัยใด แต่มีการคาดคะเนกันว่า น่าจะมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรนั้น มีปรากฏในสมัยรัชกาลที่ 2 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ใน ‘กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน’ โดยระบุว่า

"หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร"

แต่ในกาพย์เห่นี้ก็มีการเอ่ยถึงเพียงแค่มะม่วง แต่ไม่ได้เอ่ยถึงการทานคู่กับข้าวเหนียวแต่อย่างใด ซึ่งมะม่วงที่ถูกกล่าวถึงนั้นคือ มะม่วงพันธุ์หมอนทองกับอกร่อง โดยมีความนัยแฝงเอาไว้ว่า เมื่อรัชกาลที่ 2 ได้เสวยทุเรียน และมะม่วงก็หวนคิดถึงเมื่อยามได้นอนพักผ่อนแนบชิดแอบอิงกายพิงหมอนอยู่กับน้องนาง อย่างไรก็ตาม การที่มีการเอ่ยถึงมะม่วงนั้น อาจสื่อได้ว่า มะม่วง เป็นผลไม้ที่ผู้คนนิยมสูงก็เป็นได้

ต่อเนื่องมาในรัชกาลที่ 5 จึงได้เริ่มมีการเอ่ยถึงการทานมะม่วงคู่กับข้าวเหนียว จากนั้นข้าวเหนียวมะม่วงก็เป็นของหวานที่คนไทยนิยมทานดับร้อนมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากมีวิธีการทำที่ง่าย และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก มีเพียงขั้นตอนในการปรุงข้าวเหนียวเท่านั้น ส่วนมะม่วงก็นิยมใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ แค่ปอกเปลือกก็รับประทานได้เลย

ทั้งนี้ ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ 'Mango sticky riceเป็นขนมไทยที่โด่งดังติดอันดับติด 1 ใน 50 ของขนมหวานที่อร่อยที่สุดในโลก จากการสำรวจของสำนักข่าวที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับระดับโลกอย่างซีเอ็นเอ็น ทำให้เป็นที่รู้กันว่าเมื่อชาวต่างชาติมาเยือนประเทศไทย เกือบทุกคนจะต้องมาลิ้มลองขนมหวานที่ทานกับผลไม้ชนิดนี้กันแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นด้วยชื่อเสียง และความอร่อยบวกกับนวัตกรรมของการถนอมอาหารที่ก้าวหน้าในยุคปัจจุบัน ยังทำให้ข้าวเหนียวมะม่วงถูกพัฒนา และดัดแปลงให้สอดรับกับความต้องการของชาวต่างชาติ โดยใช้นวัตกรรมแปรรูปเป็นข้าวเหนียวมะม่วงแบบสำเร็จรูป ซึ่งมีทั้งแบบแช่แข็งและไม่แช่แข็ง เพื่อทำตลาดส่งออกไปยังกลุ่มลูกค้าในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ ประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน รวมถึงทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้เป็นอย่างดี  

 

เขียนโดย ปภัสรา เพ็ชร์ณรงค์