"ไทยสร้างไทย" เปิดตัว "ศิธา ทิวารี" ลงผู้ว่า กทม. เหตุดีเอ็นเอตรงสเปค ทำงานจริงจังฟังเสียงประชาชน ด้าน "ศิธา" งัด นโยบาย 3P ซื้อใจประชาชน ลั่น ขอสู้จนขาดใจ
วันที่ 30 มีนาคม 2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทยนำผู้บริหารสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัว น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรค พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนที่เป็นตัวแทนผู้สนับสนุนผู้สมัคร แต่ละเขต มาร่วมงานแน่นพื้นที่
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า 30 ปีที่ผ่านมา ตนเองทุ่มเทให้พี่น้องประชาชน กทม. ที่ถือเป็นบ้านเกิดทางการเมืองของตนเอง โดยตั้งใจให้พรรคไทยสร้างไทย เป็นพรรคที่ประชาชนเจ้าของตัวจริง ยืนยันจะยืนหยัดประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสัญญาว่าจะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้เผด็จการเด็ดขาด
สมัยตนเองอยู่พรรคพลังธรรม เคยทำให้ผู้สมัคร ส.ก.และผู้สมัคร ส.ข. ชนะถล่มทลายมาแล้ว เราจะสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง เหตุผลที่เราต้องส่งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก.ในนามพรรคไทยสร้างไทย เพราะว่า อำนาจไม่ได้อยู่กับผู้ว่าฯ กทม.คนเดียว ต้องเกี่ยวพันในสภาฯ และรัฐบาลด้วย ไปหัวเดียวโด่เด่ทำไม่ได้ ไม่มีใครเป็นฮีโร่แก้ปัญหาให้คน กทม.ได้คนเดียว เราต้องมีพรรคการเมืองแข็งแกร่งมาสนับสนุนทำงาน และมี ส.ส.สนับสนุนการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.ด้วย นี่คือทีมไทยสร้างไทย ขอสัญญาจะเอาความทุกข์ของพี่น้องคนกรุงเทพฯ มาอยู่บนบ่า "สุดารัตน์ และพรรคไทยสร้างไทย" เพื่อแก้ปัญหา จึงขอให้เลือก น.ต.ศิธา เป็นผู้ว่าฯ และ ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทยทั้ง 50 เขต แล้วจะได้ "สุดารัตน์" ไปทำงาน
"ศิธา ธิวารี เป็นคนที่หน่อยเชื่อมั่นว่า จะเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครได้ดี จะสร้างกรุงเทพฯ ให้กลับมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ได้ เป็นบ้านแห่งความสุข น.ต.ศิธา จึงเป็นคนที่ตนเองเชื่อมั่น ไว้วางใจ เรามีดีเอ็นเอการทำงานตรงกัน และเมื่อตนเองได้เป็นรัฐมนตรีฯ จากเหนือจรดใต้ ปุ่นไปกับหน่อยทุกที่ ทุกจังหวัด ทุกห้องประชุม มีสุดารัตน์ที่ไหน จะเห็นศิธา เดินอยู่ใกล้ ๆ เป็นเงาตามตัว เป็นเบื้องหลังความสำเร็จ"
ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตนเข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 43 ที่คลองเตย สำนึกบุญคุณชาวคลองเตยที่เลือกตั้งให้ตนได้เป็น ส.ส. 2 สมัยในปี 44 และ 48 จนตนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แม้เวลานั้นไม่ได้ออกสื่อ แต่ยังคงลงพื้นที่พบประชาชนคนคลองเตยอย่างต่อเนื่อง และการประกาศลงสมัครครั้งนี้ ตนเจอคำถามว่า จะชนะหรือ เขาลงพื้นที่มาตั้งนาน จึงตอบไปว่า ตนเคยเป็นนักบินเครื่องบินรบมาก่อน อะไรเป็นภารกิจก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะทำหน้าที่เหมือนตอนช่วยดับเพลิงในพื้นที่คลองเตยสมัยเป็น ส.ส. และที่ผ่านมา ตนลงพื้นที่พบประชาชนมาโดยตลอด ตนรู้งาน รู้หน้าที่อยู่ในคลองเตย มาถึงทุกวันนี้ เนื้องานที่ตนทำมาเกี่ยวกับการทำงานในกทม. โดยตนแยกนโยบาย กทม. เป็น 3P โดย P แรก คือ People สร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพฯ P ที่ 2 คือ Profit สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน และ P ที่ 3 สามคือ Planet โดยจะสร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯอย่างยั่งยืน
"ผมให้ใจแล้วเขาก็ให้ใจกับผม 22 ปี ก็ยังให้ใจกับผมอยู่ ผมจะทำตรงนี้ให้ประชาชน โดยจะเป็นหัวเรือในส่วนกทม. ประสานกับ คุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งเป็นหัวเรือในการนำพาพรรคไทยสร้างไทยเสนอนโยบายที่โดนใจประชาชน และทำให้กทม.เป็นเขตตัวอย่างให้คนทั้งประเทศได้รู้ ไม่ต้องมาห่วงว่าผมจะแพ้จะชนะ ผมสู้ขาดใจ"