ทนายกฤษณะแฉ 'แม่แตงโม' ได้ฟังคลิปจากกล้องหน้ารถของ 'โบ ทีเค' พยานปากสำคัญคดีแตงโม ช่วงที่ 'กระติก' เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือแล้ว แต่ต่อมากลับมีข้อมูล ทั้งจากแม่และตำรวจว่า ในคลิปมีแค่ภาพไม่มีเสียง
ความคืบหน้าหลังเมื่อวานนี้ 'แม่จิ๋ม ภนิดา ศิระยุทธโยธิน' แม่ของแตงโม และทนายเดชา เดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อถอดถอนเรื่องของแตงโมออกจากกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ชุดหมอพรทิพย์ โดยส่วนหนึ่งมีการพาดพิงถึงทนายกฤษณะ อดีตทนายความคดีแตงโม ระบุว่า เป็นคนดำเนินการยื่นหนังสือ ดึงหมอพรทิพย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีเองทั้งหมดโดย ที่แม่ไม่เคยอ่านเนื้อหาในหนังสือเลย
ล่าสุด ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวช่อง 8 ระบุว่า เมื่อวานนี้หลังมีข่าวตัวเองยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีและได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไปว่า อาจจะมีการออกมาแชร์ข้อมูลเพื่อปกป้องตัวเอง ทำให้แม่ของแตงโมโทรศัพท์มาหาทันที ถามว่าจะแฉข้อมูลเกี่ยวกับกับคดีเหรอ
โดยประเด็นแรกในการยื่นเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการฯ ชุดหมอพรทิพย์ ยืนยันว่า ตัวเองทำตามขั้นตอนถูกต้องและมีการแจ้งคุณแม่ ตอนที่เข้าพบกรรมาธิการ พร้อมกับหลานสาวคุณแม่ยังมีการโทรศัพท์ให้คุณแม่ได้พูดคุย แต่เนื้อหาในหนังสือก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณแม่ไม่ยอมอ่าน
ประเด็นเรื่องคลิปจากกล้องหน้ารถ ของโบ ทีเค ที่ระบุว่ากระติกเล่าเหตุการณ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้คุณแม่แจ้งกับตัวเองว่าได้เข้าไปฟังมีทั้งคลิปและเสียงซึ่งตัวเองก็ได้ทำหน้าที่ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนแต่ไม่ได้ฟังจนกระทั่งเมื่อวานนี้คุณแม่กลับโทรมาบอกว่าในคลิปมีแค่ภาพไม่มีเสียง และตำรวจก็ยืนยันในลักษณะเดียวกัน ส่วนตัวเองก็ไม่มีอำนาจจะเข้าไปฟังคลิปแล้วเพราะไม่ใช่ทนายความ
"คลิปหน้ารถตรงนั้น ที่ผมเคยบอกแล้วแหละผมส่งให้พนักงานสอบสวน...แต่ว่าผมไม่มีอำนาจเข้าไปฟังแล้ว ก็ต้องเป็นฝ่ายท่านอาจารย์เดชาเข้าไปฟังนะครับ แล้วคลิปนั้นคุณแม่ได้ยินแล้วเหรอคะพี่...วันนั้นคุณแม่โทรมาคุณแม่บอกว่าเข้าไปฟังแล้วนะมันมีทั้งภาพและเสียง แต่คุณแม่ก็ไม่ได้บอกว่าเขาพูดอะไรกัน แต่เมื่อวานนี้คุณแม่โทรมาบอกว่าคุณแม่เข้าไปฟังแล้วไม่มีอะไร"
ทนายกฤษณะ ยืนยันว่า ไม่ได้คิดจะแฉคุณแม่ แต่เมื่อวานนี้ที่พูดไปว่า ตัวเองก็มีข้อมูลที่ต้องเอามาปกป้องตัวเอง เป็นเพราะตอนนั้นมีอารมณ์ที่รู้สึกว่าคุณแม่พาดพิง
ขณะเดียวกันตลอดช่วงที่ได้ทำหน้าที่ทนายก็ได้รับรู้และมีหลักฐานหลายอย่าง ถ้าถามว่าจะเอาออกมาเปิดไหมเพื่อให้คดีพลิกก็ต้องรอก่อนว่าตำรวจจะแถลงว่าอะไรตรงกับหลักฐานที่มีไหมแล้วค่อยดูอีกทีว่าจะเปิดหรือไม่