"อนุพงษ์" ลั่น ให้ "คดีหมอกระต่าย" เป็นตัวอย่างขับรถชนคนตาย ต้องติดคุก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

 

วันที่ 27 ม.ค.2565 - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย  ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของนางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม​. พรรคเพื่อไทย ต่อกรณีการเสียชีวิตของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ ระหว่างเดินทางข้ามถนนตรงทางม้าลาย ถนนพญาไท  ว่า ทุกคนเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ไม่สามารถหาสิ่งทดแทนหรือบรรเทาได้  ดังนั้น ต้องถอดบทเรียน  สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องไม่ใช่อภิสิทธิ์ใด ๆ  ถ้ามีการทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากล คนที่มีอำนาจหน้าที่ต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น ตนอยากให้สังคมทราบว่าต้องทำตามกฎหมาย แม้จะบรรเทาเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่คนที่ทำต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

"รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหา แก้กฎหมายและอยากทำให้ดีกว่านี้ เช่น   ผู้ที่ขับรถเร็ว, ดื่มสุราแล้วขับรถ  หากมีผู้บาดเจ็บ คนเสียชีวิต โทษคือติดคุก  แต่การทำคดีนั้น คณะกรรมการปลอดภัยทางถนนไม่เห็นด้วยว่ากระบวนการทำคดีนั้นไม่ติดคุก ดังนั้นต้องทำให้ชัดเพื่อให้การบังคบกฎหมายใช้ ให่ได้ผลและคนตระหนัก อย่างข้าราชการบางส่วนต้องไม่ประมาท เพราะถ้าติดคุกต้องจบ ครอบครัวจบ กฎหมายแรงแต่อยู่ที่ทำคดีอย่างไรให้ติดคุกเป็นตัวอย่าง” พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจง

พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า  คณะกรรมการปลอดภัยทางถนน  พยายามหาทางแก้ไข และจากการประเมินการใช้ถนนของประเทศไทย พบว่ามาตรการทางกฎหมายไม่สามารถทำให้คนขับรถดีมีวินัยได้ ดังนั้นคณะกรรมการพยายามแก้ไข เช่น แก้ไขการสอบใบขับขี่ ให้มีวินัย วัฒนธรรมการใช้รถ ไม่ใช่แค่เดินหน้า หรือถอยหลังได้เท่านั้น นอกจากนั้นประเด็นที่ทำคดีเป็นประมาท ทั้งที่การขับรถเร็ว ขับรถดื่มสุรา ถือว่าจงใจ ต้องติดคุก เป็นข้าราชการ เป็นใครก็ต้องติดคุก

“คณะกรรมการทั้งหมด พยายามหาทางแก้ แก้กฎหมายแม้ไม่ได้อย่างใจคณะกรรมการ แต่พยายามทำ หวังว่าโอกาสครั้งนี้ ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ผลักดันแก้กฎหมายและมีมาตรการให้ประเทศไทยปลอดภัย”