'ประภัตร' โชว์ผลแลปกลางสภาฯ ยันไม่ปกปิดโรคระบาด 'อหิวาต์เเอฟริกาในหมู' ระบุผมไม่ได้เเกล้งเซ่อ 

 

วันที่ 20 ธ.ค. 2565 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) ตอบกระทู้ถามสดของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่ตั้งถามถึงโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ)ในสุกร ว่า เมื่อเดือน ส.ค.ปี 2562 เจอซากสุกรลอยน้ำในแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  ได้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง และได้ตรวจพิสูจน์ซากโดยผลแลปยืนยันว่าเป็นโรคเพิร์ส หรือ พีอาร์อาร์เอส ไม่ใช่โรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร เอเอสเอฟ

 

“ผลแลประบุว่าไม่พบอหิวาห์แอฟริกา เป็นตรวจไวรัส แต่เป็น พีอาร์อาร์เอส ดังนั้นไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับ แต่ผลแลปยืนยันมาแบบนี้  เช่น ผลแลป อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ที่พบว่ามีหมูตายพอสมควร ระบุว่าเป็นพีอาร์เอส ส่วนโรคเอเอสเอฟ เพิ่งเจอปี 2565 ที่โรงฆ่าสัตว์นครปฐม อย่างไรก็ดี รัฐบาลไม่มีการปกปิด สำหรับหมูที่ตายทั้งสิ้น 2.7 แสนตัว ผลแลปบอกว่าเป็นพีอาร์อาร์เอส”

 

รมช.กษ. กล่าวชี้แจงด้วยว่า ปริมาณหมูในประเทศมีจำนวน 19 ล้านตัว ทั้งนี้ มีกลุ่มผู้เลี้ยงรวม 1.9 แสนราย แบ่งเป็นรายย่อยและรายเล็ก 1.8 แสนราย มีปริมาณหมูที่เลี้ยงประมาณ 4 ล้านตัว ขณะที่รายใหญ่ 200 ราย และรายกลาง 3,000 ราย มีปริมาณหมูที่เลี้ยง 15 ล้านตัว ส่วนราคาหมูที่มีราคาแพง ซึ่งกรมการค้าภายใน เป็นผู้กำหนดราคา โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาเนื้อหมูแพง เนื่องจากราคาอาหาร และ ราคาลูกหมู  โดยในเดือน พ.ย. 2564 พบว่า มีราคาต้นทุนการเลี้ยง 82 บาท เขียงหมูขาย 160 บาท แต่ในเดือน ธ.ค. 2564 - ม.ค. 2565 ต้นทุนขึ้น 91 บาท ราคาหน้าฟาร์ม 110 บาท ราคาขายเนื้อแดง 215 บาท ยันไม่ได้เเกล้งเซ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายนายจุลพันธุ์ ท้าพิสูจน์ให้ขุนซากหมูขึ้นมาตรวจอีกครั้ง เชื่อว่าจะเจอโรคเอเอสเอฟแน่นอน อย่างไรก็ดี การปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีเป็นอย่างระบบ นอกจากนั้นในส่วนของราคาเนื้อหมูที่สูงขึ้น เชื่อว่ามีผู้ได้ประโยชน์จากผู้ค้าที่เก็บสต๊อกเนื้อหมู และพร้อมจะพาไปแหล่งที่เก็บสต๊อกเนื้อหมู ไม่ใช่ไปตรวจสต๊อกที่โรงเนื้อแกะและเนื้อวัว