ตำรวจท่องเที่ยวรวบแม่เล้ายุคไซเบอร์ ส่งเด็กสาวให้กับนักท่องเที่ยว ใช้โลกออนไลน์เสนอขายบริการทางเพศครบวงจร

 

30 ธ.ค. 2564 พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร รอง ผกก.1 บก.ทท.2 และ พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1 บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังร่วมตำรวจ ปคม. เข้าทำการจับกุม น.ส.ณัฐธิดา จูทะรัตน์ อายุ 25 ปี ชาว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2057/2564 ลงวันที่ 3 ธ.ค. 2564 ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการค้าประเวณีได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี ร่วมกันรับผลประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณี หรือจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักเลขที่ 250 ม.9 ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น

พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 กล่าวว่า ภายหลังจากที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวสืบทราบว่าพื้นที่ จ.ยโสธร มีบุคคลมีพฤติการณ์เป็นธุระจัดหาเด็กสาวอายุไม่ถึง 18 ปี มาขายบริการทางเพศแก่นักเที่ยวทั่วไปที่ต้องการบริการทางเพศอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี จึงประสานการทำงานร่วมกันกับตำรวจ ปคม. จนสืบทราบว่า น.ส.ณัฐธิดา ซึ่งใช้ชื่อไลน์ “สายไม่ว่าง” เป็นธุระจัดหาและเป็นแม่เล้ารายสำคัญในพื้นที่ เป็นนายหน้าจัดหาเด็กสาวขายบริการทางเพศให้กับนักท่องเที่ยว

เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมจากเพจที่มีชื่อว่า "มีเด็กรับงาน (หญิงแท้) เขตมหาชนะชัย" จึงประสานการทำงานร่วมทุกฝ่ายจนกระทั่งพบว่า ผู้ที่ใช้ชื่อในไลน์และเพจเฟซบุ๊กว่า “สายไม่ว่าง” มีพฤติการณ์เป็นธุระจัดหาเด็กหญิงสาวเพื่อขายบริการทางเพศ เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งพบว่านอกจากการกระทำความผิดผ่านเพจเฟซบุ๊กแล้ว ผู้ต้องหายังใช้ทวิตเตอร์ และไลน์ รวมทั้งสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โพสต์หาลูกค้า และมีเครือข่ายค้ามนุษย์ในเขตหลายจังหวัดในภาคอีสานและกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตหมายจับต่อศาลอาญาและติดตามจับกุมตัวได้ขณะซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา แต่ข้อมูลทางการสอบสวนไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เนื่องจากกระทบสำนวนในการทำคดี ซึ่งหลังจากการสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป