หนุ่มซิ่งเบนซ์ป้ายแดงชนเก๋งดับ 3 ศพ สารภาพดื่มสุรา ขณะที่แม่คนตายเข้าพบตำรวจ เผยลูกสาวมีลูกเล็กอีก 3 คน ล่าสุดยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รองผู้กำกับจราจรทางด่วน 2 ในฐานะหัวหน้าสถานีด่านอโศกฯ กล่าวถึงคดีอุบัติเหตุรถเบนซ์ ซีแอลเอส สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ต 5448 กรุงเทพฯ ชนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า บริโอ้ ทะเบียน ฆษ 8497 กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บนทางด่วนศรีรัช ขั้นที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ ช่วงบริเวณข้ามคลองแสนแสบ เมื่อคืนวานนี้(17ธ.ค.2564) ว่า สำหรับคดีผู้เสียชีวิต 3 ศพ สน.หัวหมาก จะเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับชันสูตรพลิกศพ ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเป็นยังไง โดยต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จึงยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ ส่วนคดีจราจรเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น สน.ทางด่วน 2 จะเป็นผู้รับผิดชอบ
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนทางด่วน 2 ได้สอบปากคำ นายจินทวัส หรือโบ๊ท พงศ์บางลี่ อายุ 33 ปี นักธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอาง คนขับรถเบนซ์ฯ คันเกิดเหตุให้การว่า ได้ใช้ทางด่วนจากฉลองรัชและมาเปลี่ยนเป็นด่วนศรีรัช เพื่อจะกลับบ้านพักย่านศรีนครินทร์ ส่วนรถเก๋งฮอนด้าฯ คู่กรณียังไม่ทราบว่าปลายทางจะไปทางไหน แต่มีรายงานว่าจะไปที่ จ.ชลบุรี
นายจินทวัส ยังยอมรับด้วยว่า มีการดื่มสุรามาจริงสอดคล้องกับผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่สามารถให้การได้ทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในอาการบาดเจ็บบริเวณลำตัว เพราะได้รับแรงกระแทกจากถุงลมนิรภัยภายในรถระเบิดทั้งคัน จึงต้องส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อน หลังจากนี้จะนัดหมายเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง
ทั้งนี้ สน.ทางด่วน 2 จะส่งหลักฐานทั้งหมด อาทิ ร่องรอยการเฉี่ยวชน, กล้องวงจรปิด และผลตรวจสอบความเร็วรถ ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องคดี และรอผลชันสูตรพลิกศพจาก สน.หัวหมาก มาประกอบเพื่อสรุปสำนวนให้อัยการต่อไป ยืนยันว่า ตำรวจทางด่วน 2 ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกข้อกำหนดอีกทั้งจะไม่มีการช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เบื้องต้น จะพิจารณาดำเนินการแจ้งข้อหากับคนขับรถเบนซ์ คือ ขับรถขณะเมาสุราเป็นเหตุให้แก่ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในส่วนการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายฝ่ายคู่กรณีต้องดำเนินการเจรจากัน ตำรวจไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว แต่ทราบว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการพูดคุย เพราะยังอยู่ในบรรยากาศของความโศกเศร้า
ด้าน นางสุดา ไทยเจริญ อายุ 55 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี มารดาและญาติของ น.ส.อัจฉรา เข็มทอง อายุ 30 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์ฮอนด้าที่เสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 เพื่อให้ปากคำ ก่อนเปิดเผยว่า เพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจโทรมาแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิต สำหรับรถยนต์ฮอนด้าคันที่ถูกชน ลูกสาวเพิ่งซื้อได้ 1 ปี ส่วนตัวไม่ได้อยู่กับลูกสาว จึงไม่ทราบรายละเอียดว่าลูกสาวจะเดินทางไปไหน และไม่ทราบว่าในรถมีกี่คน ที่ผ่านมาได้คุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น และคอยเตือนให้ระวังความปลอดภัยเรื่องการขับรถ รวมทั้งเรื่องดูแลครอบครัวเพราะลูกสาวมีลูก 3 คนวัย 3-5 ขวบ
นางสุดา กล่าวอีกว่า การสูญเสียครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวรู้สึกช็อก และหลังเกิดเหตุยังไม่มีการพูดคุยกับคู่กรณี และคู่กรณียังไม่มีการติดต่อมา แต่เมื่อเรื่องราวทางคดีเสร็จสิ้น ก็อยากจะพูดคุยกับคู่กรณีถึงสาเหตุและเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตอนนี้จะประสานกับสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนำร่างลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี