จับตาริมแม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี รับมวลน้ำจากนครศรีฯ -ฝนตกหนักในพื้นที่ ล่าสุดน้ำเริ่มท่วมชุมชนริมตลิ่งแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขนย้ายกลุ่มเปราะบาง ทรัพย์สินปชช.ไปยังพื้นที่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 12.00 น. (30 พ.ย. 2564) กำลังพลหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 ทหารพัฒนา เข้าขนย้ายทรัพย์สิน และบุคคลกลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่ ม.3 และ ม.4 ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ฯ หลังเกิดฝนตกหนักทำน้ำในคลองเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำท่วมบ้านเรือนสูงประมาณ 1-2 เมตร ชาวบ้านได้รับผลกระทบจำนวนมาก พร้อมนำถุงยังชีพและน้ำดื่มให้การช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้น
โดยมวลน้ำที่ ต.ไทรขึง จะไหลลงคลองอิปัน และไหลต่อมายังแม่น้ำตาปี โดยขณะนี้ระดับน้ำตาปีช่วง อ.พระแสง เมื่อเวลา 12:00 น. อยู่ที่ 10.43 เมตร สูงกว่าระดับวิกฤติ 30 เซนติเมตร ทำให้น้ำในคลองอิปัน ระบายได้ยากชุมชนริมคลองอิปันได้ผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนมากเช่นกัน และมวลน้ำจะไหลต่อพื้นที่ปลายน้ำที่มีการเตรียมพร้อมรับน้ำแล้ว เช่นที่ ต.เคียนซา อ.เคียงซา ทำให้กำลังพลกรมทหารราบที่ 25 และฝ่ายปกครอง เข้าช่วยขนย้ายทรัพย์สินของโรงเรียนบ้านคลองโร ขึ้นที่สูง เนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำตาปี ซึ่งน้ำได้ล้นตลิ่งมาถึงขอบโรงเรียนแล้ว
ด้านนายสันติ บุญรอด นายอำเภอเคียนซา ที่ร่วมลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้าน ระบุว่า ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ช่วยขนย้ายทรัพย์สินให้กับชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงแล้ว รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ไปอยู่บ้านญาติในที่ปลอดภัย รวมถึงการตั้งครัวสนามช่วยประกอบอาหารชาวบ้านที่น้ำท่วมบ้าน รวมถึงเตรียมแผนรับสถานการณ์กรณีวิกฤตแล้ว
นอกจากนั้นในพื้นที่คีรีรัฐนิคม น้ำในคลองมะเลาะ ก็ล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนภายในหมู่บ้าน บ้านหนองรี ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม ประมาณ 50 ครัวเรือน ตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำยังทรงตัว บางจุดท่วมสูง 1-2 เมตร
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมได้เกิดต่อเนื่อง มากว่า 1 สัปดาห์ คลี่คลายแล้ว 5 อำเภอเหลือ 7 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักเพิ่มในช่วงวันที่ผ่านมาโดยเฉพาะอ.ริมแม่น้ำตาปี ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนประเมินสถานการณ์น้ำจากนครศรีฯที่ฝนตกหนักเช่นกัน และจะไหลเข้ามาในจ.สุราษฎร์ฯ เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงยกของและผลักดันน้ำออกสู่ทะเล ลดผลกระทบให้ชาวบ้านริมแม่น้ำตาปี
ด้านปภ.สรุปสถานการณ์ฝนตกหนัก จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้กำลังแรง จ.สุราษฎร์ธานี ปริมาณน้ำฝน 24 ชม.ที่ผ่านมามากสุด ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร วัดได้ 252 มม. ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน วัดได้ 195 มม. ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมขัง จำนวน 7 อำเภอ (อ.พระแสง อ.ชัยบุรี อ.เวียงสระ อ.เคียนซา อ.บ้านนาสาร อ.บ้านนาเดิม และ อ.พุนพิน) รวม 36 ตำบล 201 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 9,052 ครัวเรือน 28,100 คน เจ้าหน้าที่ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ประเมินปริมาณน้ำในแม่น้ำตาปีอย่างใกล้ชิด สำหรับสภาพอากาศโดยรวม ฝนทิ้งช่วงมีฝนเล็กน้อยในบางพื้นที่