อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง อดีต ผกก.โจ้ และพวก ทุกข้อกล่าวหา โทษสูงสุดประหารชีวิตสถานเดียว และไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวเกรงไปยุ่งเหยิงคดี
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 พ.ย. 2564 ที่ press center ชั้น 2 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารเอ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด, นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด, นายวรินทร สาสนัส รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ร่วมแถลงข่าว กรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผกก.โจ้)
นายอิทธิพร เปิดเผยว่า ทางอัยการได้นำสำนวนยื่นฟ้องคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ โจ้ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐาน (1) เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (2) เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (3) ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และ (4) ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,288,289 (5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4,172
โดยคดีดังกล่าวอัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา 143 วรรคท้าย สืบเนื่องจาก นายจิระพงษ์ หรือ มาวิน ธนะพัฒน์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูก ฆ่าถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน (เหตุเกิดช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ สภ.นครสวรรค์)
นายวรินทร รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เปิดเผยว่า จากที่ตรวจรายละเอียดพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ไว้ในสำนวนค่อนข้างละเอียดครบถ้วน ตนมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดที่จะนำสืบต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะพิจารณาพิพากษาลงโทษพวกจำเลยได้ ในส่วนของ ผกก.โจ้กับพวกนั้น ไม่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้อัยการพิจารณา โดยวันนี้อัยการฝ่ายคดีอาญาทุจริต 3 ได้นำสำนวนพร้อมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการพิจารณาได้เสนอต่อศาล โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ประทับฟ้องไว้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ไว้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในท้ายคำฟ้องอัยการได้ยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง โทษสูงสุดคือประหารชีวิต หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าพวกจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี
ด้าน นายประยุทธ กล่าวว่า คดีนี้อัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจสั่งคดีตามที่กฎหมายระบุไว้ว่า คดีวิสามัญฆาตกรรมหรือการตายระหว่างควบคุมของเจ้าหน้าที่ให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ซึ่งท่านได้พิจารณาสำนวนคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จึงมีคำสั่งฟ้องครบทุกข้อหา โดยเฉพาะข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย ตาม ป.อาญามาตรา 289 โทษประหารชีวิตสถานเดียว ทั้งนี้ เมื่ออัยการสูงสุดสั่งฟ้องแล้ว คณะพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายก็ได้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เรียบร้อยแล้ว จากนั้นกระบวนการก็จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ
เมื่อถามว่า การสั่งฟ้องข้อหาตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 289(5) เจตนาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย นั้นได้ยื่นฟ้องต่อ ผกก.โจ้ กับพวกเป็นคดีแรกหรือไม่ นายอิทธิพร โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีแรกที่อัยการได้สั่งฟ้องข้อหาดังกล่าว ที่ผ่านมา อัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยอื่น ๆ ในความผิดฐานนี้ อาทิ ไอซ์หีบเหล็ก คดีฆ่ายกครัวที่ภาคใต้ คดีที่ตั้งใจจะฆ่าและจุดไฟเผาทั้งเป็น
เมื่อถามว่า ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้เจตนาฆ่าผู้ตายนั้น ทางอัยการมีความเห็นอย่างไร โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ก็เป็นข้ออ้างการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาทั่วไป ขึ้นอยู่กับพิจารณาของศาล อัยการไม่สามารถให้ความเห็นได้