‘ช่องทางธรรมชาติ’ จุดลักลอบเข้าไทยผิด กม. ...รัฐรู้ แต่ยังแก้ไม่ได้?
แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าไทย เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ในขณะที่การบริหารจัดการยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ
แม้รัฐจะพยายามสร้างกฎกติกา อย่างล่าสุด เมื่อ 4 พ.ย. 2564 ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เห็นชอบแนวทางการนำแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานตาม MOU ในสถานการณ์โควิดตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้เร่งหารือร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.), กระทรวงการต่างประเทศ (กต.), กระทรวงสาธารณสุข (สธ.), และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อดำเนินการตามแผนอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการหลบหนีเข้าเมืองผ่านเส้นทางธรรมชาติที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนอยู่เป็นประจำ
ข้อมูลสถิติผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 จนถึงถึงปัจจุบัน จับกุมผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองได้ 18,315 ราย โดยมีสถิติสำคัญในแบ่งละเดือน ดังนี้
เดือน ต.ค.2564 : 3,229 ราย
เดือน ก.ย.2564 : 3,276 ราย
เดือน ส.ค.2564 : 2,476 ราย
เดือน ก.ค.2564 : 2,221 ราย
และล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1-4 พ.ย.ที่ผ่านมา จับกุมได้แล้ว 771 ราย
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รอง ผบช.สตม.) ในฐานะโฆษก สตม. เปิดเผยถึงสถิติการจับกุมว่าตั้งแต่ช่วงต้นปี สตม. ร่วมกับตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการป้องกันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่าตัวเลขผู้หลบหนีเข้ามาค่อย ๆ สูงขึ้น สาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มดีขึ้น เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย ทำให้ตัวผู้ประกอบการต้องการแรงงานเช่นกัน แต่ด่านชายแดนยังไม่เปิด ชาวต่างด้าวจึงต้องลักลอบเข้าประเทศ เพราะความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ค่าแรงเมืองไทยสูงกว่า จึงพยายามลักลอบเข้ามา
ประกอบกับมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่อนุญาตให้นายจ้างสามารถยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนแรงงานต่างด้าวได้ สำหรับแรงงาน 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา และลาว เพื่อสนับสนุนและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงอาจเป็นช่องทางให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวอาศัยช่วงนี้ ลักลอบพาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แม้เจ้าหน้าที่จะระดมกวาดล้าง แต่ยังคงพบขบวนการขนแรงงานข้ามชาติ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
รอง ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ด่านชายแดนรอบประเทศไทย จะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว แต่ 3 จุดสำคัญที่พบบ่อยครั้ง จะอยู่ที่บริเวณ ด่านแม่สอด จ.ตาก, กาญจนบุรี และสระแก้ว ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าไปทำงานตามพื้นที่ชั้นในของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ ซึ่ง สตม.ได้รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเอาไว้แล้ว
ขณะที่ท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่นิ่งนอนใจ กำชับย้ำอีกครั้ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง สกัดกั้นขบวนการขนย้าย ค้าแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนโดยผิดกฎหมาย หลังพบว่ารายงานการจับกุมการลักลอบขนย้ายแรงงานเถื่อนผ่านชายแดนมีความถี่มากขึ้น
โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 บริเวณชายแดน โดยใช้กลไกศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัด ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการทำงาน
สำหรับสถานการณ์การจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองในวันนี้ ( 5 พ.ย. 2564 )นั้น
กลางดึก! หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองระนอง เข้าตรวจค้นเกสต์เฮ้าส์ ในพื้นที่ ต.บางรื้น อ.เมือง จ.ระนอง พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 8 คน พักอยู่ภายใน โดยตรวจสอบทราบว่ากลุ่มแรงงานดังกล่าวเดินทางมายังประเทศไทยด้วยเรือหางยาว ก่อนมาขึ้นฝั่งที่ปากน้ำระนอง จากนั้นกลุ่มผู้ร่วมขบวนการชาวไทยขี่รถจักรยานยนต์รับตัวมาพักที่เกสต์เฮ้าส์แห่งนี้ได้ 3 คืน เพื่อที่จะรอไปทำงานในพื้นที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยเสียเงินรายละ 20,000 บาท เพื่อหวังที่จะได้ทำงานในประเทศไทย แต่มาโดนเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.สุรินทร์ (ผกก.ตม.จว.สุรินทร์) มอบหมายให้ พ.ต.ท.หญิง วรานนท์ เนียมหอม สว.ตม.จว.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราม ตม.จว.สุรินทร์ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ออกตรวจช่องทางธรรมชาติ ตามแนวชายแดนประเทศไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา พื้นที่ อ.กาบเชิง เพื่อป้องกันปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะเข้าสู่ประเทศไทย
ทั้งนี้ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถือเป็นที่ตั้งของจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และมีการปิดด่านชายแดนช่องจอม ห้ามบุคคลและพาหนะผ่านเข้า-ออก เนื่องจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอื่น เช่น การลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย การส่งออก-นำเข้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว และอาวุธสงคราม ด้วย
ขณะที่เมื่อ 31 ต.ค. 2564 ที่ด่านแม่สอด จ.ตาก กองกำลังนเรศวร ร่วมกับ ตำรวจ สภ.แม่สอด ได้นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 31 คน แบ่งเป็นชาย 16 คน หญิง 15 คน โดยกระจายไปตามห้องพักต่าง ๆ ซึ่งทุกคนไม่มีเอกสารการเข้าเมือง ลักลอบเดินทางมาพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ เพื่อรอให้ขบวนการขนต่างด้าวเดินทางมารับตัวไปทำงานยังพื้นที่ชั้นในของประเทศ
ทั้งหมดนี้คือสถานการณ์แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายล่าสุดที่หยิบยกมานำเสนอ .