รวบภัยสังคม 'กะเทยแสบ' ตุ๋นเหยื่อหลอกถ่ายคลิปลับแบล็กเมล์  ด้าน ตร.ปลอมตัวเป็นพนักงานส่งอาหารร่วมจับ สารภาพขู่เหยื่อรายละ 1.5-2 หมื่นบาท พบพฤติกรรมแสบทำมาตั้งแต่ปี 59

 

 

วันที่ 3 พ.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม, พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง รองผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม. ร่วมกันแถลงข่าวผลการเปิดปฎิบัติการ ยุทธการเด็ดปีกอวตาร หลอกเหยื่อแบล็คเมล์ โดยจับกุมนายธนกฤต (สงวนนามสกุล)  ผู้ต้องหาหมายจับ ที่1854/2564  ลงวันที่ 1 พ.ย. ในข้อกล่าวหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, ข่มขืนใจผู้อื่นให้ ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ โดยจับกุมได้ภายในซอยวัดสังเวช แขวงบางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากบก.ปคม. ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็กและเยาวชนหลายราย ผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก ว่าถูกคนร้ายใช้เฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดีติดต่อพูดคุยกับเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อเริ่มคุ้นเคยก็จะชักชวนพูดคุยเรื่องลามกอนาจาร อาศัยโอกาสที่เหยื่อเป็นผู้เยาว์รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ส่งภาพลามกอนาจารของหญิงสาวไปแล้วชักชวนเหยื่อถ่ายภาพโป๊เปลือยโชว์ของสงวนของลับตนเองกลับมา จากนั้นก็บันทึกภาพลามกอนาจารเหยื่อ แล้วนำมาข่มขู่กรรโชกทรัพย์เหยื่อให้จ่ายเงิน มิฉะนั้นจะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในโซเชียลมีเดียทำให้เกิดความเสียหายและอับอาย ทางบก.ปคม. จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายธนกฤต จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาออกหมายจับจนสามารถจับกุมได้

ทั้งนี้ มีรายงานว่าระหว่างการติดตามตัวชุดสืบสวนบก.ปคม. สืบทราบว่าคนร้ายพักอาศัยที่บ้านไม่มีเลขที่ภายในซอยวัดสังเวช แขวงบางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  ซึ่งนำกำลังไปสังเกตการณ์ แต่เนื่องจากในซอยคับแคบและเป็นชุมชน ทางพล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม และพ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ ช่วยราชการปคม. จึงได้ปลอมตัวเป็นพนักงานส่งอาหารขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนตามซอยดังกล่าว จนพบผู้ต้องหาขณะผู้ต้องหาเดินอยู่ในซอยดังกล่าวจึงทำการจับกุม

ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า คนร้ายจะใช้วิธีเลือกเหยื่อ โดยหากเหยื่อเป็นเด็กและเยาวชนจะใช้แอปพลิเคชัน "OMI" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับหาเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่น ส่วนเหยื่อที่เป็นผู้ใหญ่ ก็จะเลือกหาเหยื่อผ่านเว็บไซต์ www.swinging.com เป็นช่องทางในการเลือกเหยื่อ โดยจะใช้วิธีทักทายขอทำความรู้จักกับเหยื่อ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเข้าใจว่าเป็นหญิงสาวก็จะมีการแลกเปลี่ยนส่งภาพลามกอนาจารระหว่างกัน จากนั้นคนร้ายก็จะบันทึกภาพนั้นไว้แล้วนำมาข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน มิฉะนั้นจะประจานให้อับอาย โดยให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี  รายละ 15,000-20,000 บาท ซึ่งขณะนี้มีเหยื่อเสียหายไม่ต่ำกว่า 3-4 ราย

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน และทำมานานตั้งแต่ปี 2559 และถูกจับกุมฐานความผิดยักยอกทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์ เมื่อปี 2559 โดยครั้งนั้นถูกจำคุกที่เรือนจำนครปฐม ก่อนจะเดือน พ.ค.ปี2562 จะถูกดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ และถูกคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดราชบุรี ก่อนพ้นโทษออกมา 27 พ.ย.2563 และมาก่อเหตุอีก 

ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยไปยังผู้ปกครองของเด็กและเยาวชน และพี่น้องประชาชนทั่วไปที่ได้รับความเสียหาย ตกเป็นเหยื่อผู้ต้องหารายนี้สามารถเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้