รวบ 'บังมิตร' อุ้มฆ่าโหดลุงวัย 58 ปี พ่อลูกหนี้พนันบอล นำศพทิ้งลานจอดรถตลาดดังนนทบุรี ผงะ! พบเยาวชนชายหญิงร่วมก๊วนด้วย

วันที่ 30 ต.ค.2564 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมายัง สภ.บางบัวทอง แถลงผลการจับกุม นายสมไสว หรือบังมิตร หมัดบู่ อายุ 40 ปี, น.ส.สุกัญญา หรือ นะ ลามอ อายุ 37 ปี, เยาวชนชาย อายุ 16 ปี และเยาวชนหญิง อายุ 18 ปี ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีชูซุ รุ่นดีแม็ก สีขาว - ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 เวลาประมาณ 20.00 น. ตำรวจรับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิต บริเวณตลาดนัดต้นตาล ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งแพทย์ร่วมชันสูตร และทีมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ชายไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิต ลักษณะนอนหงายสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ นอนอยู่บริเวณลานจอดรถ เบื้องต้นติดเชื้อโควิค-19 คาคว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายคำพร หงส์เวียงจันทร์ อายุ 58 ปี ชาว จ.อุทัยธานี จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุคันดังกล่าว ซึ่งมีนายคำพร ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ท้ายกระบะ โดยมีเยาวชนชาย อายุ 16 ปี รายดังกล่าว นั่งพยุงร่าง และเยาวชนหญิงวัย 18 ปี นั่งอยู่ด้านข้าง ขณะที่นายสมไสว หรือบังมิตร เป็นคนขับรถ และ น.ส.สุกัญญา นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ

จากการสืบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุลูกของนายคำพร หงส์เวียงจันทร์ (ผู้ตาย) เป็นหนี้การพนันกับนายสมไสว หรือบังมิตร และลูกของผู้ตายได้หลบหนีไปไม่ชำระหนี้ เป็นเหตุให้บังมิตร ไม่พอใจ ต่อมาวันที่ 26 ต.ค.2564 บังมิตรและพวกได้ไปลักพาตัวนายคำพรผู้ตาย จากบ้านพักพื้นที่คู้บอน กรุงเทพฯ และนำมากักขังไว้ที่บ้านของบังมิตร ที่ซอยประเสริฐอิสลาม ซอย 38 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.2564 ผู้ต้องหาได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายจำนวนหลายครั้ง เป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้ต้องหาร่วมกันนำตัวผู้ตายออกจากบ้าน ไปยังวัดสะพานสูง เมื่อถึงวัดสะพานสูงผู้ต้องหาและพวกได้ย้ายร่างของผู้ตายเข้าไปควบคุมภายในรถกระบะเพื่อไม่ให้ถูกผู้ใดพบเห็น กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ต้องหาและพวกได้ขับรถยนต์กระบะวนมาถึงบริเวณตลาดต้นตาล เพื่อนำร่างของนายคำพรมาไว้ที่ตลาดต้นตาล ซึ่งขณะนั้นนายคำพรถึงแก่ความตายแล้ว จากนั้นผู้ต้องหาและพวกได้ช่วยกันนำร่างของผู้ตายไปวางไว้บริเวณลานจอดรถของตลาดต้นตาล ก่อนจะขับรถหลบหนีไป

พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจเหตุร่วมกับแพทย์ตรวจพบเชื้อโควิดเป็นผลบวกจากผู้เสียชีวิต และมีชาวบ้านที่เห็นบอกว่า มีรถต้องสงสัยถอยรถชนคนตาย ตำรวจจึงติดตามตัว ได้รับความร่วมมือจากนิติวิทยศาสตร์ พบว่า ผู้เสียชีวิตถูกกระทำจากของแข็ง ผบช.ภ.1 จึงสั่งการให้ดำเนินเรื่องเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้ตาย ตำรวจสืบสวนจนสามารถจับกุมนายสมไสว หรือบังมิตรไว้ได้ หลังพบว่ามีปัญหาทะเลาะกับนายกฤษณพงศ์ หงส์เวียงจันทร์ ซึ่งเป็นหนี้บังมิตร จำนวน 57,000 บาท จากการพนันฟุตบอลและหนีไม่ยอมใช้หนี้ เป็นเหตุให้บังมิตรโกรธเคือง จึงร่วมกันกับพวกลักพาตัวนายคำพร หงส์เวียงจันทร์ บิดาของนายกฤษณพงศ์ มากักขังไว้ที่บ้าน จากนั้นได้พูดข่มขู่ให้นายคำพรชดใช้หนี้ แต่ไม่สามารถใช้หนี้ได้ บังมิตรจึงทำร้ายร่างกายนายคำพร โดยเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 มีพยานเล่าว่า ลุงคำพรถูกเตะจนอุจจาระไหลอาการสาหัส ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. มีการนำตัวลุงคำพรไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ระหว่างนั้นมีอาการสาหัส จึงนำตัวย้ายจากท้ายกระบะเข้ามาอยู่ภายในรถ ก่อนนำศพลุงคำพรมาทิ้งที่จุดเกิดเหตุ

สำหรับผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการทั้งหมด 4 คน คนที่เป็นตัวการหลักคือ นายสมไสว หรือบังมิตร โดยสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าสาเหตุเกิดจากการเป็นหนี้เรื่องการพนัน ซึ่งตำรวจจะสืบสวนขยายผลต่อว่านอกจากหนี้การพนันแล้ว ยังมีการกระทำอื่นที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอีกหรือไม่ โดยจะให้นายกฤษณพงศ์นำศพพ่อไปทำพิธีต่อ และจะสอบปากคำเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ตรวจสอบประวัตินายสมไสว หรือบังมิตร พบว่าเคยถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมเมื่อช่วงต้นปี 2563 หลังมีพฤติกรรมหลอกขายสินค้า มีผู้เสียหายจำนวนมาก และยังมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย