ปภ.อ่างทอง เตือนเรือขนส่งเพิ่มความระมัดระวังหลังเขื่อนเจ้าพระยาพร่องน้ำสู่ท้ายเขื่อนต่อเนื่องหวั่นเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเตือน 3 อำเภอริมตลิ่งเตรียมเฝ้าระวังยกสิ่งของให้พ้นจากน้ำ

 

นางสาวสุพีพร โมรา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า เรือบรรทุกขนส่งสินค้าในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จ.อ่างทอง ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลังเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท พร่องน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนต่อเนื่องเพื่อเตรียมรับมวลน้ำจากภาคเหนือตอนล่างกำลังไหลลงมาสมทบจนทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น และไหลแรงทำให้การควบคุมเรือเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหลังน้ำเพิ่มระดับสูงและไหลเชี่ยว รวมถึงเตือนประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ประกอบการในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เตรียมยกสิ่งของให้พ้นจากน้ำ รวมถึงเสริมความแข็งแรงให้สิ่งก่อสร้าง และประกาศเตือนให้ 3 อำเภอที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาประกอบไปด้วย อ.ไชโย, อ.เมือง และ อ.ป่าโมก เตรียมพร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายลดจำนวนเรือพ่วงลงจากเดิม เหลือเพียง 2-3 พ่วงเท่านั้นเพื่อความคล่องตัวในการควบคุมเรือ รวมถึงใช้วิธีนำเรือลากจูงโต่งทางด้านท้ายอีกหนึ่งลำ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเจ้าของเรือขนส่งรายหนึ่งเปิดเผยว่า ช่วงนี้หลังได้รับคำเตือนจากกรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ชาวเรือต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือเพิ่มมากขึ้น โดยต้องระมัดระวังทุกอย่างเพราะน้ำเริ่มไหลแรงมากขึ้น ต้องสื่อสารกับเรือพ่วงในขณะเดินเรือตลอดเวลาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคกลาง(ชัยนาท) สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทานแจ้งว่าเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำอยู่ที่ 1,423 ลบ.เมตร/วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 12.43 เมตร ท้ายเขื่อน 16.50 เมตร ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยระดับน้ำเจ้าพระยาที่สถานีชลมาตร C7A สำนักชลประทานที่ 12 หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำอยู่ที่ 5.22 เมตร/รทก.(รทก.-ระดับน้ำทะเลปานกลาง)จากระดับตลิ่ง 10 เมตร/รทก. น้ำไหลผ่าน 1,249 ลบ.เมตร/วินาทีและมีทีท่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง