จบ!! ปม 2 พส.ไลฟ์สดสอนธรรมะ กมธ.ศาสนาขอลดความตลกเหลือ 30 % ด้าน "พระมหาสมปอง" ต่อรองขอ 50:50 ส่วนประเด็นรับสินค้าอุปถัมภ์ทำได้ แต่ห้ามเชียร์

 

ภายหลัง 2 พส. พระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ 2 พระไลฟ์สดธรรมะขำ เข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม เป็นเวลาร่วมชั่วโมงครึ่ง โดยมีสำนักพระพุทธศาสนาเข้าร่วมหารือในประเด็นความเหมาะในการไลฟ์สดสอนธรรมะ

จากนั้นได้ลงมาแถลงข่าวร่วมกับ กมธ.โดยนายสุชาติ อุสาหะ ประธานกมธ. กล่าวว่า การประชุมวันนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และพระอาจารย์ทั้ง 2 ตอบคำถามได้ชัดเจน ซึ่งมองว่าการไลฟ์สดเป็นเรื่องดีที่สามารถทำได้ แต่จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร มีพระที่เป็นผู้ปกครองดูแลอยู่แล้ว กมธ.ไม่มีอำนาจในการที่จะชี้ผิดหรือชี้ถูก เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม กมธ. ทำได้แค่แลกเปลี่ยนข้อมูลเท่านั้น ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาที่เข้าฟังการชี้แจงด้วยนั้นพอในใจกับการชี้แจง และมีการเคลียร์ทุกประเด็นแล้ว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีกฎอะไรในการที่จะไลฟ์สดหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า  ครั้งนี้ถือเป็นกรณีใหม่ ที่มีการเทศน์ออนไลน์และมีคนติดตามเป็นจำนวนหลายแสนคน เราจึงจะนำข้อตกลงในวันนี้มาเป็นบรรทัดฐานในกรณีไลฟ์สดหากมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว

ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์  นิติตะวัน  ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าให้พระทั้งสองรูปลาสิขาบทเพื่อไปเป็นดารา นายสุชาติ กล่าวว่าได้มีการเคลียร์ใจในที่ประชุมกมธ.แล้ว  ขณะที่พระมหาไพรวัลย์ ย้ำว่า นายไพบูลย์ ฝากมาบอกสื่อว่า อย่าจี้ถามทุกเรื่อง

ด้านพระมหาสมปอง  กล่าวว่า โดยสรุปมีทั้งหมด 3 ประเด็น ในส่วนของด้านดีคือ การทำงานที่ทันยุคทันสมัย ส่วนด้านลบที่ต้องปรับปรุงคือ หากผิดพลาดจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งอาตมาจะปรับปรุง  โดยกรรมาธิการให้ข้อแนะนำว่าให้ระวังเรื่องคำพูด  เพราะหากเกิดผิดพลาดจะแก้ไขได้ยาก โดยมีการตกลงกันว่า เนื้อหาธรรมะ ร้อยละ 70 และตลกขบขัน ร้อยละ 30 อาตมาได้ต่อรองไปว่าในช่วงต้นไลฟ์ของเรื่องหาธรรมะร้อยละ50 ตลกร้อยละ 50 เพื่อดึงคนให้ฟังไลฟ์ต่อ 

ส่วนเรื่องการโฆษณาหรือสินค้าอุปถัมภ์ สามารถทำได้ ในลักษณะการตั้งโชว์ แต่ไม่ให้พูดถึงตัวสินค้าที่เป็นโฆษณา ไม่ให้เชียร์  ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะอุปถัมภ์ต้องมีความเหมาะสมกับพระพุทธศาสนา 

ด้านพระมหาไพรวัลย์  กล่าวขอบคุณที่ กมธ. ได้เชิญมารับฟังความคิดเห็น ยืนยันว่าจะนำคำแนะนำของ กมธ. ทุกคนไปปรับปรุงให้เหมาะสม  ซึ่งอาตมาคำนึงถึงความเป็นห่วงของทุกคน ที่ได้เห็นว่าเราเป็นพระที่ได้มีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เหมาะสมต่อไป