นักวิจัยไส้เดือนแม่โจ้ ชี้ ไส้เดือนกินได้ ให้โปรตีนสูง ตำราจีนมีนำไปทำยาบำรุง แต่ต้องผ่านการทำความสะอาด ปรุงถูกสุขอนามัย ย้ำเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญ

(2 ก.ย.2564) ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาและวิจัยไส้เดือนดิน แสดงความเห็น กรณียูทูปเบอร์รายหนึ่ง เผยแพร่คลิปการรับประทานไส้เดือนดิบ ๆ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า การรับประทานไส้เดือนมีมานานแล้ว ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการนำมารับประทานด้วยการย่างไฟ เชื่อว่าเป็นยารักษาโรคบางอย่าง เช่นเดียวกับในประเทศจีน ที่มีการนำไส้เดือนใช้เป็นส่วนผสมในยาบำรุงตามตำรายาโบราณ โดยที่ผ่านมามีการส่งออกไส้เดือนที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดและตากแห้งจากประเทศไทยปีละเป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าสูง

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ระบุว่า การนำไส้เดือนมารับประทาน มีทั้งประโยชน์และโทษ โดยในส่วนของประโยชน์ ต้องยอมรับว่าไส้เดือนมีโปรตีนสูง ส่วนของโทษ เนื่องจากในลำไส้ของไส้เดือนจะมีจุลินทรีย์อยู่มากถึงประมาณ 500 ชนิด เพื่อใช้ในกระบวนการย่อยสลาย เมื่อรับประทานไส้เดือนไปแล้ว บางคนไม่มีภูมิต้านทาน อาจจะเกิดผลเสียต่อร่างกาย ขณะที่คนมีภูมิต้านทานจะไม่เกิดผลใด ๆ แต่ในระยะยาวยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ ดังนั้นการจะนำมารับประทานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาด และปรุงอย่างถูกสุขอนามัย อีกทั้งการจะเลือกรับประทานควรต้องใช้วิจารณญาณด้วย

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ปัจจุบันไส้เดือนดิน ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะในการนำมาใช้กำจัดขยะอินทรีย์ให้ย่อยสลายจนหมดสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับได้ปุ๋ยจากมูลและฉี่ของไส้เดือนดินที่มีมูลค่า และคุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นิยมนำไปใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับและพืชผล เพราะให้ผลผลิตที่ดีเยี่ยม เนื่องจากให้แร่ธาตุอาหารที่พืชต้องการในระดับที่สูงและเหมาะสม ซึ่งในส่วนของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้มีการพัฒนาวิจัยในเรื่องของไส้เดือนดินมานานแล้ว จนมีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปัจจุบันไส้เดือนยังถูกนำมาใช้ประโยชน์ในโครงการปลูกกัญชาทางการแพทย์ ที่ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ผลผลิตดีทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ