ทนายตั้มชี้ คุยกับลุงพล คือเรื่องไทมไลน์ พบยังมีพยานปากสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับลุงพล แต่ตำรวจยังไม่สอบปากคำ ขณะที่ลุงพล กังวลที่ ทนายตั้ม ยังไม่ได้เดินทางไปจุดเกิดเหตุ

จากกรณีทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมคณะรวม 4 คน เดินทางพบ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เพื่อไปตรวจสอบยังจุดพบร่างน้องชมพู่ ก่อนจะตัดสินใจรับทำคดีน้องชมพู่ หลังลุงพล ติดต่อให้เข้ามาช่วยดูแล หากลุงพล ถูกตำรวจออกหมายจับ กระทั่งต่อมา ทนายตั้ม ตัดสินใจไม่เดินทางเข้า จ.มุกดาหาร เพราะมาจากพื้นที่สีแดง คือ จ.สมุทรสาคร รวมถึงจะเดินทางกลับทันที หลังสนทนาในเรื่องคดีกับลุงพล และป้าแต๋น เสร็จสิ้น

ทนายษิทรา เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับ ลุงพลและป้าแต๋น พบสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องไทมไลน์ ส่วนจะรับทำคดีนี้ หรือไม่ ขอลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุยังภูเหล็กไฟ และคุยกับพยานที่เกี่ยวข้องก่อน เนื่องจาก ขณะนี้มีพยานปากสำคัญ ที่ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำอยู่ ซึ่งพยานคนดังกล่าว คือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ลุงพลสามารถชี้ชัดถึงไทมไลน์ ของลุงพลได้ ยืนยันพยานรายนี้มีประโยชน์ต่อรูปคดี ที่ตำรวจจะใช้พิจารณาว่าควรเอาผิดกับบุคคลใด โดยการสอบปากคำของตำรวจควรสอบปากคำเพื่อเอาผิด และสอบปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ด้วย ไม่ใช่สอบปากคำเพื่อเอาผิดอย่างเดียว ส่วนรายละเอียดอื่นไม่ขอเปิดเผย และหากทันทีที่มีการคลายล็อค จะเดินทางขึ้นจุดเกิดเหตุ แน่นอน

ด้านลุงพล ยอมรับ ดีใจที่ ทนายตั้ม จะเข้ามาดูแลคดีน้องชมพู่ ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วง ที่ทนายตั้ม ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุได้ ขณะที่เรื่องพยานปากสำคัญ นั้น ยืนยัน ที่ผ่านมาเคยให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้วด้วย ไม่ใช่พยานรายใหม่