ไทย-เมียนมา หารือป้องกันโควิด-19 แต่ยังจัดระเบียบรถข้ามแดนไม่ลงตัว โดยไทยเสนอให้ขนถ่ายสินค้าตรงชายแดน แต่เมียนมา ระบุว่าอาจทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น ประชุมจึงยังไม่ได้ข้อยุติ

(15 ก.ย. 2563) นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้จัดประชุมร่วมระหว่างส่วนท้องถิ่นของไทยกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อแจ้งถึงมาตรการใหม่ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จากการการขนส่งสินค้า โดยมีฝ่ายปกครอง ทหารกองกำลังผาเมือง ศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สาธารณสุข หอการค้า ฯลฯ เข้าร่วมครบครัน ส่วนฝ่ายเมียนมามีนายซาน เมี่ยซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก นำผู้บริหารระดับสูง เช่น นายด่านศุลกากร สาธารณสุข หอการค้า ฯลฯ เข้าร่วมครบครัน

โดยทางฝ่ายไทยแจ้งว่า ปัจจุบันการขนส่งสินค้าจากฝั่งไทยมีการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่นำสินค้า เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก โดยมีข้อกำหนดให้คนขับรถบรรทุกสามารถอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็กได้ไม่เกิน 7 ชั่วโมงหรือห้ามค้างแรมซึ่งยังไม่พบปัญหาใด ๆ

อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีการใช้รถบรรทุกสินค้าประเภทรถตู้มากกว่า 200 คัน ขับมาจากฝั่งประเทศเมียนมา ข้ามมาขนสินค้าจากฝั่งไทย โดยมีการขับผ่านด่านพรมแดนตรงสะพานเข้ามารับสินค้าตามโกดังต่าง ๆ ในเขต อ.แม่สาย ก่อนจะขนสินค้ากลับฝั่งประเทศเมียนมาไป ซึ่งกรณีล่าสุดทางนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้มีประกาศฉบับที่ 35 กำหนดให้มาตรการใหม่ โดยจะจัดให้มีลานเปลี่ยนถ่ายสินค้าตรงด่านพรมแดนใกล้สะพาน ไม่อนุญาตให้รถยนต์ตู้ดังกล่าวขับล้ำเข้ามาชั้นในของประเทศไทยอีก และจะมีการตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบการขนถ่านสินค้าดังกล่าวเป็นการเฉพาะด้วย

ขณะที่นายซาน เมี่ยซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก และคณะระบุว่า ปัจจุบันที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ไม่ได้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด และรถยนต์หรือแม้แต่ผู้คนก็ถูกตรวจสอบด้วยมาตรการที่เข้มงวดโดยเฉพาะตามถนนสายเมืองเชียงตุงซึ่งเป็นเมืองใหญของรัฐฉานไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก แล้ว ส่วนการจะกันไม่ให้รถตู้ขนสินค้าเข้ามาลึกในฝั่งไทยและให้ขนถ่ายสินค้ากันตรงด่านพรมแดนนั้นจะทำให้เกิดต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องใช้ทั้งรถบรรทุกเพิ่มเติม ใช้แรงงานขน ฯลฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยและยังทำให้ราคาสินค้าอาจพุ่งสูงขึ้นตามต้นทุนดังกล่าวอีกด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงต้นทางนายอำเภอแม่สายยังคงยืนยันที่จะให้ใช้มาตรการใหม่ดังกล่าวทำให้ทางการท้องถิ่นเมียนมาแจ้งว่าหากจะคุมเข้มเช่นนั้นทางฝ่ายประเทศเมียนมา ก็จะดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วยการห้ามไม่ให้รถบรรทุกสินค้าไทยห้ามเข้าไปชั้นในเมืองท่าขี้เหล็กโดยให้มีการเปลี่ยนถ่ายคนเป็นชาวเมียนมาตรงบริเวณสะพานข้ามลำน้ำสาย

รายงานข่าวแจ้งว่า การหารือไม่ได้ข้อยุติทำให้นายซาน เมี่ย ซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก ได้หยิบยกข้อตกลงระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-เมียนมา ที่ระบุว่า หากการหารือระหว่างประเทศตกลงกันไม่ได้ ทางการเมียนมาก็อนุญาตให้ส่วนท้องถิ่นสามารถปิดด่านพรมแดนได้เลย ซึ่งกรณีนี้หากไม่สามารถใช้มาตรการเดียวกันเขาก็จะแจ้งให้มีการปิดด่านพรมแดนตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ฝั่งประเทศเมียนมาได้เลย ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงจะนำข้อหารือไปแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละฝ่ายเพื่อจะกลับไปหารือสำหรับหาข้อตกลงกันอีกครั้งต่อไป