นายกฯ มอบบ้านใหม่ให้ชาวบึงบางซื่อ ฝากประชาชนร่วมทำให้บ้านเมืองสงบ ย้ำ ไม่ต้องการอำนาจ-ผลประโยชน์ แนะระวังคนฉวยโอกาสบิดเบือนข้อมูล ยันรัฐบาลหลอกหลวงใครไม่ได้

(11 ก.ย. 2563) พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ เป็นประธานในพิธีมอบ “บ้านใหม่” ให้ชุมชนบึงบางซื่อ ตามโครงการสานพลังประชารัฐที่พื้นที่พัฒนาบึงบางซื่อ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกตื้นตันแทนประชาชน ซึ่งรัฐบาลก็ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษและดูแลคนทุกกลุ่มเท่าเทียมกัน ทุกอย่างที่รัฐบาลทำงานมาตลอดหลายปีนั้น ยืนยันว่าตนเองไม่เคยทิ้งคนมีรายได้น้อย และคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ สิ่งสำคัญคือลูกหลานและความสัมพันธ์ พ่อ แม่ ลูก ที่ต้องเข้าใจกัน

ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามอย่างมากให้เกิดความร่วมมือกัน รวมถึงมุ่งหวังจะให้ทุกคนเข้าระบบและขออย่ากังวลว่ารัฐบาลจะล้วงข้อมูล แต่ขอให้ระมัดระวังคนที่พูดหลอกลวงมากกว่า ซึ่งรัฐบาลหลอกลวงใครไม่ได้ พูดบิดเบือนไม่ได้ ไม่เหมือนบางคนที่ฉวยโอกาส ซึ่งวันนี้ตนเองมาพบกับประชาชนตัวเป็น ๆ การพูดตัวจริงและการพูดในโทรทัศน์คนละคนกัน วันนี้ถือว่าได้มาอยู่กับผู้ทรงเกียรติ เพราะประชาชนคนผู้ทรงเกียรติของตน ประชาชนก็เป็นคนที่เลือกผู้ทรงเกียรติ จึงขอให้ดูผู้แทนที่ประชาชนเลือกเข้าไปในสภาฯด้วยก็แล้วกัน

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า ทุกอย่างมีการเปลื่ยนแปลงตามลำดับ ให้เปลื่ยนแปลงในเวลารวดเร็วไม่รู้จะทำได้หรือไม่ แต่ขออย่างเดียวคือขอให้บ้านเมืองสงบสุข ประเทศก็จะเดินหน้าได้ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ไม่ใช่อะไรจะแย่หรือเลวไปทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะทำให้คนทำงานไม่มีกำลังใจ เพราะข้อเท็จจริงก็มีอยู่ หลังเผชิญปัญหาโควิด-19 แล้ววันนี้รัฐบาลต้องกู้เงินให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระ ซึ่งยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้กฏหมายทั้งหมด ที่รัฐบาลต้องทยายจ่ายและไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไหร่

แต่ถึงอย่างไร นายกรัฐมนตรี ก็ขอฝากใจไว้ให้กับทุกคน ต่างคนต่างดูแลซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกคนรักษาระเบียบวินัยทางสังคม ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะรุมเร้า และรัฐบาลต้องคอยตอบคำถามกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่พยายามทำให้เป็นเรื่อง ส่วนเรื่องที่เป็นเรื่อง กลับทำไม่ให้เป็นเรื่อง ซึ่งเป็นปัญหาของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำอีกว่า ขอให้ประชาชนมีความสุข บ้านเมืองสงบสุข มีความรักความสามัคคี ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ไม่ทำบ้านเมืองวุ่นวาย ซึ่งใครจะทำอะไรก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ พร้อมหวังให้ประชาชนร่วมกันทำให้บ้านเมืองเกิดความเรียบร้อยเพื่อให้เกิดความสันติคือการพูดจากัน และยืนยันว่า ตนเองไม่ได้อะไรกับใครทั้งสิ้น ไม่ต้องการรักษาตำแหน่ง และไม่ต้องการอยู่ในอำนาจ หรือผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ตนเองต้องการอำนาจในการบริหาร เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ภายใต้กฏหมาย ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนทุกช่วงอายุอยู่ร่วมกันให้ได้ เพราะทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกันเป็นพ่อเป็นแม่กันทั้งนั้น ไม่สามารถแยกจากกันได้ จึงต้องมีรัฐบาลในการดูแลและบริหารหลายอย่าง ภายใต้ระบบการบริหารราชการแผ่นดิน หากตรงไหนไม่ดีก็แก้ไข แต่ทั้งหมดต้องใช้กฏหมาย และกระบวนการของรัฐบาล เพราะนั้นคือระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข