เจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่ป่า 2 อำเภอ ล่าอีก 4 ผู้ต้องขังปีนกำแพงเรือนจำสว่างแดนดินหลบหนี พบเป็นสมุนเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่เชื่อมโยงกับฝั่งลาว วางแผนหนีข้ามประเทศ

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ยังคงสนธิกำลังกับตำรวจ และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ คำตากล้า และ บ้านม่วง ที่มีเบาะแสว่าผู้ต้องขังทั้งหมดได้แยกเป็น 2 กลุ่ม หลบหนีอยู่ในพื้นที่นี้ ในที่สุดช่วงเย็นวานนี้สามารถจับกุมนายภานุพงษ์ ได้ที่บ้านแฟนสาว ในพื้นที่บ้านดงน้ำเย็น ตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร ซึ่งนายทัศ เพิ่งหลบหนีเข้ามากบดานอยู่ในบ้านแฟนสาว หลังจากถูกเจ้าหน้าที่นำกำลังไล่ล่าบริเวณป่าด้านหลังสำนักสงฆ์ ในพื้นที่บ้านหนองแสง ตำบลนาแต้ อำเภอคำตากล้า

ผู้สื่อข่าวช่อง 8 คุณจุฑารัตน์ บุบผา ได้ติดตามปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ด้วย โดยเมื่อชุดของพันตำรวจเอกพยุงศักดิ์ นามวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร นำกำลังเดินลัดเลาะไปตามแนวร่องน้ำ เข้าไปในป่า พบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่า ผู้ต้องขังอีก 2 คน คือ นายพัฒพงษ์ เกษ์คำใส หรือ ตั้ม และนายสุริยันต์ สุพรรณ์ประเสริฐ หรือ ต้น รวมทั้งแฟนสาวของนายต้น กบดานอยู่ในบริเวณนี้

หลักฐานที่พบ มีทั้ง มาม่าคัพ ขนม น้ำ ฐานตั้งยากันยุง ยาแก้ปวด ผ้าก็อตพันแผลเปื้อนเลือด และยาสีฟัน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ยาแก้ปวด ผ้าก็อตพันแผล และยาสีฟัน นั้น เป็นของนายต้น ที่ได้รับบาดเจ็บตกจากกำแพงเรือนจำแขนหัก และถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเป็นแผลพลุพองที่หน้าอก จึงมีการใช้ยาสีฟัน ทาแผลบรรเทาอาการ

อีกพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายในการเปิดปฏิบัติการ คือ อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร แหล่งกบดานของนายอนนท์ หลักคำ และนายวัฒนชัย พันภักดี ซึ่งการกดดันของเจ้าหน้าที่ยังพบเบาะแสสำคัญวนเวียนอยู่ในอำเภอนี้ แต่จากการปูพรหมค้นหาในสวนยางพาราซึ่งเป็นจุดนัดหมาย พบเพียงกองไฟเท่านั้น โดยช่วงบ่ายวันนี้จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมสุนัขตำรวจ เปิดปฏิบัติการอีกครั้ง

จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า ผู้ต้องขังทั้ง 5 คน เป็นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่อำเภอบ้านม่วง // คำตากล้า // และสว่างแดนดิน แต่เป็นคนละเครือข่าย ซึ่งตัวการสำคัญ คนแรก คือ นายอนนท์ ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายใหญ่ที่จังหวัดอุบลราชธานี

อีกคนคือ นายทัศ ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายใหญ่เช่นกัน ซึ่งเครือข่ายของทั้ง 2 คนเชื่อมโยงกับขบวนการเดียวกันในประเทศเพื่อนบ้าน การหลบหนีของทั้ง 5 คน ครั้งนี้ จึงมีปลายทางอยู่ที่สปป.ลาว ซึ่งจะมีนายอนนท์ และนายทัศ เป็นคนประสานงาน

สำหรับนายทัศ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าเรือนจำอำเภอสว่างแดนดินไปแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังทำการสอบสวนเสร็จสิ้น ทำให้ครอบครัวที่เดินทางนำอาหารมาเยี่ยม ที่สภ.คำตากล้า ไม่ได้พบตัว โดยพ่อ-แม่ของนายทัศ ก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ทันได้เข้าพูดคุยกับลูกชาย แต่ก็เข้าใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยจะรอเวลาที่ทางเรือนจำเปิดให้เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังอีกครั้ง ก็จะเดินทางไปเยี่ยมลูกชาย

ล่าสุด พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ อยู่ระหว่างประชุมวางแผนร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร รวมทั้งมีการประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เร้น กับชุดปฏิบัติการที่ สภ.บ้านม่วง ด้วย

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์กำหนดมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำผ่านการงดเยี่ยมญาติในพื้นที่และได้นำเทคโนโลยีการเยี่ยมญาติผ่านหน้าจอมือถือ โดยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ หรือ line visit แทน มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และสามารถทำได้ด้วยตนเอง ตามขั้นตอนที่กรมราชทัณฑ์กำหนด

จากนั้น เจ้าหน้าที่จะจัดคิวและแจ้งวัน เวลา นัดหมายให้วิดีโอคอล ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อเยี่ยมผู้ต้องขัง โดยให้เยี่ยมได้ครั้งละไม่เกิน 10 นาที เพื่อให้บริการกับญาติผู้ต้องขังรายอื่นอย่างทั่วถึง