ครม. เห็นชอบ เช่ากำไล EM ติดตามตัวนักโทษ 3 หมื่นเครื่อง วงเงิน 800 กว่าล้านบาท 30 เดือน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบโครงการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring: EM) มาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก จำนวน 30,000 เครื่อง วงเงิน 877.26 ล้านบาท โดยขอผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าเช่าอุปกรณ์ฯ ระยะเวลาดำเนินการ 30 เดือน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2565 วงเงิน 832.5 ล้านบาท

พร้อมทั้งเห็นชอบให้ยกเลิกการผูกพันงบประมาณรายการค่าเช่า EM พร้อมระบบควบคุมการทำงาน จำนวน 4,000 เครื่อง วงเงิน 151.20 ล้านบาท ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 เนื่องจากบริษัทคู่สัญญาส่งมอบอุปกรณ์ไม่ตรงตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่า ทางกรมคุมประพฤติจึงบอกเลิกสัญญา

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ โดยการเช่า EM พร้อมระบบที่เกี่ยวข้องสำหรับการติดตามตัวผู้กระทำผิดตามที่กรมคุมประพฤติกำหนด ครอบคลุม 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ถูกคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 2. ผู้ต้องราชทัณฑ์ นักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการพักการลงโทษ หรือได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 3. ผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตาม พ.ร.บ. ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545

คุณลักษณะเฉพาะของ EM ตามที่กำหนดไว้ เช่น เป็นระบบ GPS และระบบ RF (Radio-Frequency คลื่นความถี่วิทยุ) แบบชิ้นเดียว มีน้ำหนักรวมไม่เกิน 250 กรัม ระบบการแจ้งเตือนเป็นการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อเกิดเหตุกับอุปกรณ์ เช่น แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ออกนอก เข้าเขตพื้นที่ที่กำหนด ถอดอุปกรณ์หรือสายรัดโดยไม่ได้รับอนุญาต อุปกรณ์ สายรัดถูกทำลาย ฯลฯ