ทีมข่าวสำรวจสนามซ้อมยิงปืนที่ลพบุรี เผยตำรวจมาเก็บข้อมูลผู้มาใช้บริการฝึกยิงปืนทั้งหมดแล้ว

คุณกานต์สินี สิทธิโชติพงศ์ ช่อง 8 ลงพื้นที่ เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ที่ตำรวจระบุว่า อาจจะเป็นกลุ่มคนที่ขื่นชอบการยิงปืน หรือ แท็คติคอล สนามฝึกซ้อมยิงปืนในจังหวัดลพบุรี เป็นเป้าหมายที่เราไปตรวจสอบ พบมีทั้งหมด 4 แห่ง 3 แห่งเป็นของหน่วยราชการ และ อีก 1 แห่งเป็นของเอกชน ซึ่งสนามฝึกซ้อมปืนทั้ง 4 เเห่งนี้

ซึ่งตำรวจเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพื่อประกอบการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายแล้ว ซึ่ง 1 ในผู้ดูแลสนามฝึกซ้อมยิงปืน ให้ข้อมูลว่า ผู้มาใช้บริการหรือฝึกฝนการยิงปืนย้อนหลังให้กับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว โดยปกติใครที่จะมาใช้บริการนั้นจะต้องแสดงบัตรประจำตัว แสดงการครอบครองอาวุธปืน และ ลงชื่อเป็นข้อมูลไว้ โดยเฉพาะหากจะซื้อกระสุนปืนจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวโดยละเอียด ให้ตรวจสอบได้

ทั้งนี้ จากการสังเกตของทีมข่าว พบว่า เป้าที่ใช้ในการฝึกยิงส่วนใหญ่จะเป็นเป้านิ่งแทบทั้งหมด และ คนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าประจำ มักจะมาวันหยุด มีตั้งแต่ประชาชนที่ชื่นชอบการยิงปืน ข้าราชการ หรือแม้กระทั่งนักกีฬา เป็นคนในพื้นที่จ.ลพบุรีและใกล้เคียง และยังไม่เคยเห็นใครที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ก่อเหตุมาใช้บริการ

ขณะที่พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ มือปราบหูดำ ให้ข้อมูลในรายการเจาะประเด็นช่อง 8 ว่า การจับกุมคนร้ายในคดีนี้ต้องแน่นหนาเพราะคนร้ายปิดบังใบหน้าทั้งหมด หลักฐานทุกอย่างและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต้องผสมกัน ทั้งนี้มองว่า อย่าเร่งให้ตำรวจจับคนร้าย แล้วมีการจับผิดคน อาจจะช้าหน่อยแต่ขอให้จับคนร้ายตัวจริงให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าจับได้แน่นอน

พลตำรวจตรี วิชัย ยังกล่าวถึงการทำงานทั่วไปของตำรวจว่าหลังเกิดเหตุตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานหมดแล้ว โดยเฉพาะ "หัวกระสุน" ซึ่งต้องเอาไปเปรียบเทียบว่าเคยยิงที่ไหนมาบ้าง หรือกระสุนเคยก่อเหตุอย่างอื่นหรือไม่ บางกระสุนอาจจะทำให้รู้กลุ่มคนร้ายได้ด้วย และอาจเอากระสุนที่สนามยิงปืนมาเปรียบเทียบด้วย

ส่วน "ปลอกกระสุน" ก็สามารถตรวจพิสูจน์ได้ เพราะเวลายิง ลูกเลื่อนที่ดึงกระสุน ก็จะไม่เหมือนกัน เหมือนกับฟันที่เรากัดก็จะไม่เหมือนกัน

จากนั้นจะต้องวิเคราะห์สาเหตุว่า เป็นเรื่องส่วนตัวหรือชิงทอง แต่อาจจะทิ้งน้ำหนักไปที่ชิงทองเพราะหลักฐานแน่นกว่า เพราะเรื่องส่วนตัว ยังวิเคราะห์ไม่ได้

ส่วนการใช้ปลอกเก็บเสียง มองว่าคนร้ายต้องการให้เสียงเบาที่สุด เพราะกลัวว่าตอนหนีจะลำบาก เนื่องจากเกรงว่าคนจะแตกตื่นอลหม่าน แล้วจะถูกล็อกประตูจับตัวได้ ส่วนการยิงเข้ามาก็เหตุก็เพื่อแหวกทางเท่านั้น สำหรับ การทำงานของตำรวจจะต้องทำให้เงียบที่สุด หากออกสื่อจะทำให้เสียรูปคดีและทำให้การจับกุมยากขึ้น อาจจะออกข่าวอีกมุมหนึ่ง แต่ทำงานอีกมุมหนึ่งก็ได้