รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจพิสูจน์หลักฐานรถยนต์พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ พบหัวกระสุนเพิ่มอีก 6 หัว เตรียมส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์

พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมด้วยบริษัทรถยนต์ ร่วมกันตรวจรถยนต์ยี่ห้อเล็กซัส สีขาว ของพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกลอบยิง เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาหัวกระสุน และวัตถุอื่น ๆ ที่อาจยังตกค้างอยู่ภายในรถ

พลตำรวจเอกวิระชัย เผยว่า การตรวจในวันนี้ พบหัวกระสุนเพิ่มอีก 6 หัวกระสุน เป็นชนิด .38 หรือ ขนาด 9 มม. จากที่เดิมพบแล้ว 2 หัวกระสุน แต่ยังไม่ยืนยันว่า มาจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ จะต้องส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม จึงจะสามารถยืนยันชนิดของปืนที่ใช้ก่อเหตุได้

ยืนยันว่า จะทำคดีนี้อย่างดีที่สุด ในช่วงที่ทำหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ เชื่อว่า จะสามารถจับผู้ก่อเหตุได้ ส่วนการเข้าให้ปากคำของพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ เมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนรวบรวมไว้ในสำนวนแล้ว

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนได้เข้าให้ปากคำ กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช กรณีการจัดซื้อเครื่องไบโอแมททริกซ์ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ภายหลังการเข้าให้ข้อมูลกว่า 2 ชั่วโมง นายษิทรา เปิดเผยว่า ยื่นรายชื่อพยานเพิ่มเติมรวม 13 ปาก ประกอบไปด้วย นายตำรวจ ระดับชั้นนายพล 2 คน // ระดับนายพัน 10 คน // และชั้นประทวน 1 คน ซึ่ง ป.ป.ช. จะเริ่มเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานวันพรุ่งนี้

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะมาให้ปากคำเป็นพยานปากแรก พร้อมกับอดีตรองผู้บัญชาการ สตม. ซึ่งเป็นคนที่ไม่ยอมเช็นต์รับมอบโครงการจนทำให้ถูกย้าย พร้อมกันนี้ได้ยื่นเรื่องให้มีการเรียกสอบ 4 นายพลในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย+หากการไต่สวนพบว่า มีมูล ก็เชื่อว่า ป.ป.ช. จะเรียกผู้ถูกร้องเรียนทั้ง 4 คน ซึ่ง 1 ในนั้นรวมถึงพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจง ตามขั้นตอนของ ป.ป.ช.ต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ที่่ผ่านมา ทำหน้าที่ในการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม เพราะโครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูงมาก เมื่อไม่สามารถเสร็จทันในเวลาที่กำหนด และของที่นำมาใช้ ทำงานได้ไม่ดี จึงต้องทำหนังสือยกเลิกสัญญา

แต่หลังจากที่ตนย้ายออกจากตำแหน่ง ก็มาทราบภายหลังว่า มีการตรวจรับแล้ว และตรวจรับในขณะที่งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้เสียค่าปรับ ตนเป็นอดีตตำรวจ ย่อมรู้ดีว่า มีความขัดแย้งกับใคร ใครปองร้ายอยู่ และก่อนหน้านี้ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งติดต่อผ่านผู้ใหญ่ที่ตนเคารพให้ไปพบหลายครั้งแล้ว แต่ตนไม่ได้ไป

ขณะที่พลตำรวจตรี ชูฉัตร ธารีฉัตร รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พาสื่อมวลชนตรวจสอบการทำงานของระบบไบโอแมทริกซ์ ที่ใช้ในการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลที่จะเดินทางเข้า-ออกประเทศ บริเวณขาออกนอกประเทศ อาคารชั้น 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อยืนยันประสิทธิภาพว่า มีมาตรฐาน และมีความละเอียดในการคัดกรอง

ยืนยันระบบไบโอแมทริกซ์ มีความแม่นยำพอสมควร และหากเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือ เป็นบุคคลตามเเบล็กลิสต์ ระบบจะตรวจจับได้อย่างแน่นอน

ปัจจุบัน มีการใช้เครื่องไบโอแมทริกซ์ กว่า 1,300 เครื่องทั่วประเทศ ซึ่งจะติดตั้งอยู่ตามท่าอากาศยานนานาชาติ และด่านพรมแดนถาวรทั่วประเทศ

รอง ผบ.ตร. ผ่าพิสูจน์รถ "บิ๊กโจ๊ก" พบหัวกระสุนเพิ่มอีก 6 หัว