ค่า PM 2.5 ใน 2 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ จากปัญหาหมอกควันไฟป่า ขณะที่แม่ทัพภาค 4 บินตรวจไฟป่า พบยังเหลืออีก 1 จุด ที่คุมแนวไฟไม่ได้ คาดอีก 3 วัน จะควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด

พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ พื้นที่ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ในพื้นที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด มีไฟลุกไหม้เป็นแนวยาว เป็นเพียงจุดเดียว ที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนพื้นอื่นๆ นั้น มีเพียงกลุ่มควัน ที่ยังคุอยู่ในดิน และไม่รุนแรง

หลังจากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ประชุมร่วมกับ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหา มั่นใจว่าอีก 3 วัน หากไม่มีกระแสลมรุนแรง จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด

ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปที่ โรงพยาบาลเชียรใหญ่ เพื่อเยี่ยมนายธนณัฎฐ์ ตุ้ยดา ลูกจ้างปฏิบัติการดับไฟป่าทีมเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ ซึ่งป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ปอดอักเสบเฉียบพลัน นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด อาการดีขึ้น และ จะออกจากโรงพยาบาลได้ ในวันนี้ (9 ส.ค.)

เบื้องต้น พบว่า นายธนณัฏฐ์ เป็นลูกจ้างที่ไม่มีสวัสดิการในการรักษาพยาบาล ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ทางกองทัพภาคที่ 4 จึงได้ประสานหาทางช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน พบว่า มีลูกจ้างดับไฟป่าจำนวนมาก ที่เริ่มมีอาการป่วยจากพิษควันไฟ ไม่ยอมเข้ารับการรักษาพยาบาล เนื่องจากเกรงว่า ต้องชำระค่ารักษาพยาบาลเอง

ส่วนช่วงบ่าย ปรากฏว่า ไฟป่าได้ลุกลามไปด้านหลังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ ระหว่างที่เด็กๆ กำลังนอนกลางวัน เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยอพยพเด็กออกจากศูนย์ เป็นการด่วน ก่อนกำลังทหารเข้าช่วยเหลือดับไฟ

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนควนชะลิก ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำตำบล และอยู่ในเส้นทางการเคลื่อนตัวของควันไฟป่า ได้สั่งปิดเรียนทันที เนื่องจากเกรงว่า นักเรียนที่มีอยู่กว่า 220 คน จะได้รับผลกระทบ

ด้านกรมควบคุมมลพิษ ตรวจพบว่า ที่ ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ และที่ตำบลควนชะลิก อำเภอหัวไทร ค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

มทภ.4 พบแนวไฟพรุยังหนัก ขณะที่ลูกจ้างดับไฟป่าป่วยไร้สวัสดิการ