ทนายความชื่อดังเผยเหยื่อ "คดีแพรวา" สิ้นหวัง แนะฝ่ายโจทก์เร่งสืบทรัพย์หากพบมีการโอนย้ายทรัพย์สินหนี

กลับมาดังกระหึ่่มอีกครั้ง สำหรับคดี "แพรวา 9 ศพ" ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 แต่ผ่านมาถึง 9 ปี ญาติเหยื่อได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ เลยจากฝ่ายผู้ก่อเหตุ

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ระบุถึงกรณีเหยื่อคดีแพรวาที่ไม่ได้รับการเยียวยา ทั้งที่เหยื่อชนะคดีทั้ง 3 ศาล ถือว่าเป็นความสิ้นหวังของเหยื่อในคดีนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วจำเลยทั้งหมดอาจจะตายฟรีและอาจไม่ได้รับเงินเยียวยาแม้แต่บาทเดียว

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นเทคนิคในการต่อสู้ของทนายฝ่ายจำเลย ที่ประวิงเวลายืดเยื้อนานถึง 9 ปี ซึ่งระหว่างนี้อาจมีการโยกย้ายทรัพย์ กระทั่งจำเลยไม่เหลือทรัพย์สินใดมาชดใช้ให้กับเหยื่ออีกต่อไป

ซึ่งทางออกของการสู้คดีนี้ ทางฝ่ายโจทก์จะต้องไปสืบทรัพย์ของจำเลยทั้ง 4 ยึดมาให้ได้ถ้ามีการโอนหนี ก็ดำเนินคดีอาญาโกงเจ้าหนี้ หรือเพิกถอนนิติกรรมฉ้อฉลในทรัพย์สินต่างๆนี่คือเป็นปัญหาการฟ้องร้องดำเนินคดีแพ่ง

นางถวิล เช้าเที่ยง แม่ของ นายศาสตรา เช้าเที่ยง นักวิจัยไบโอเทค สวทช. 1 ในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ยืนยันยังไม่ได้มีการพูดคุย หรือต่อรองเรื่องค่าเสียหายกับนางสาวแพรวา รวมทั้งครอบครัวของผู้ก่อเหตุตามที่เป็นกระแส เพราะตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่เคยได้รับการติดต่อเจรจา หรือจ่ายค่าเสียหายให้แต่อย่างใด โดยเวลานี้ 9 ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังรวมตัวกัน และยืนยันจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากมองว่านางสาวแพรวาควรชดใช้เยียวยาให้กับผู้เสียชีวิตด้วย

ขณะที่ในสื่อสังคมออนไลน์ ยังขุดคุ้ยเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่ามีเฟซบุ๊กของผนักการเมืองรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพงานแต่งงาน พร้อมระบุข้อความ ว่า บัวบูชา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้แต่งงานแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ที่บัวบูชาแต่งงานด้วย เป็นอดีตคณะอนุกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ซึ่งบัวบูชา ก็คือ น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ แพรวาที่ขับรถพุ่งชนท้ายรถตู้สาธารณะบนทางด่วน เมื่อปี 2553

ทนายชื่อดังยอมรับ คดีแพรวา ผู้เสียหายสิ้นหวัง