บช.ปส. บุกจับแก๊งยาไต้หวันคาโกดังเชียงใหม่ ขณะบรรจุเคตามีนกว่า 50 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 125 ล้านบาท ซุกลำโพงส่งโลจิสติกส์ข้ามประเทศ พร้อมรวบสองคนไทยร่วมแก๊ง พบเช่าเป็นฐานแพคยาเสพติดมานานกว่า 4 ปี

ตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส คุมตัว Mr.Yang chih kal สัญชาติไต้หวัน อายุ 34 ปี และ Mr.Kao wei chih สัญชาติไต้หวัน อายุ 32 ปี รวมทั้งนายภูมิสิงห์ อายุ 34 ปี และนางสาวศิริพร อายุ 28 ปี สองผู้ต้องหาชาวเชียงใหม่ ไปที่โกดังสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนวงแหวนรอบสอง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกตำรวจ บช.ปส.จับกุมได้พร้อมเคตามีน 50 กิโลกรัม ขณะกำลังเตรียมบรรจุถุงและซุกซ่อนไว้ในลำโพง ภายในโกดัง

โดยผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้ง 2 คน รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนในประเทศไต้หวัน ให้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำหน้าที่บรรจุเคตามีนลงถุง และซุกซ่อนไปในลำโพงเครื่องเสียง ก่อนจะมีคนมารับไปส่งที่ขนส่งสนามบิน เมื่อเสร็จงานก็จะได้รับค่าจ้าง ครั้งละ 2 แสนบาท โดยมี 2 ผู้ต้องหาชาวไทย ทำหน้าที่ขับรถนำเคตามีน มาส่งให้

ด้านพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หน่วยปราบปรามยาเสพติดของไต้หวัน จับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางเป็นเคมามีน 274 กิโลกรัม ที่ส่งผ่านโลจิสติกส์จากไทยไปถึงไต้หวัน จากนั้นได้มีการขยายผล และประสานข้อมูลกัน ระหว่าง บช.ปส. . ปปส. และทางการไต้หวัน

กระทั่งพบกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ได้ขนได้ลำเลียงเคตามีนจากชายแดน ผ่านมาทางอำเภอแม่อาย และอำเภอเชียงดาว จึงได้สะกดรอยติดตาม จนพบว่า ยาเสพติดล็อตนี้ถูกนำไปพักเก็บไว้ที่โกดังสินค้า ถนนวงแหวนรอบกลาง ตำบลนหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 4 คน พร้อมของกลางเคตามีน 50 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 125 ล้านบาท ตู้ลำโพงขนาดใหญ่ 5 ตู้ รถยนต์กระบะ และรถเก๋งรวม 4 คัน ก่อนจะตั้งข้อหา ร่วมกันผลิตและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 เคตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฏหมาย 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้มาเช่าโกดังหลังนี้ มานานกว่า 4 ปี ทำให้เชื่อว่า ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บบรรจุยาเสพติด ก่อนส่งข้ามประเทศมาแล้วหลายครั้ง