เปิดข้อความเพื่อนชาวโปรตุเกสเผยถึงผู้ต้องสงสัยฆ่าหั่นศพ "หมอนวดไทย" ปมยืมเงิน 3 แสน 6 หมื่นบาท เผยสามีผู้ต้องสงสัยเป็นชาวปากีสถาน แต่หนีกลับไทยแล้ว

คดีสะเทือนขวัญในโปรตุเกส ฆ่าหั่นศพหญิงไทย คือ นางสาว ณัชยา เจนจบ อาชีพหมอนวดแผนไทย โดยศีรษะถูกใส่กระเป๋ามาทิ้งชายหาดที่เมืองมาโตซินโญส์ เขตโปร์ตู เมื่อ7 มีนาคม ที่ผ่านมา นำมาสู่การสืบสวนและจับกุมผู้ต้องสงสัย เป็นหญิงไทย อายุ 52 ปี เจ้าของร้านนวดแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่ามีปัญหากันเรื่องเงิน ราว 360,000 บาท

เนื่องจาก ผู้ต้องสงสัย และ สามี เคยยืมเงินจำนวนนี้มาจากผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปเปิดธุรกิจร้านนวด ซึ่งผู้เสียชีวิตก็ทำงานอยู่ด้วย แต่ต่อมาผู้เสียชีวิตต้องการออกไปเปิดธุรกิจของตัวเอง จึงทวงเงินและเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น กระทั่งผู้ต้องสงสัยก่อเหตุฆาตกรรม

เฟซบุ๊ก “ชมรมหมอนวดดี มีจรรยาบรรณ ไม่ทำแอบแฝง” โพสต์ภาพบทสนทนากับเพื่อนชาวโปรตุเกสของผู้เสียชีวิต อ้างว่า ผู้ต้องสงสัยและสามีเป็นคนฆ่าผู้เสียชีวิต เพราะเรื่องเงินจำนวนดังกล่าว และเผยว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับ ส่วนสามีหลบหนีไปประเทศไทย เพราะมีสัญชาติไทย พร้อมกับบอกว่าตำรวจไทยทราบข่าวแล้ว แต่ยังไม่ทราบส่งตัวไปรับโทษที่โปรตุเกสได้ เพราะเป็นพลเมืองไทย

และยังอ้างข้อมูลถึงสามีผู้ต้องสงสัยที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าหั่นศพผู้เสียชีวิตว่า เป็นชายชาวปากีสถาน แต่มาแต่งงานกับผู้ต้องสงสัยที่ไทย และได้รับสถานะเป็นพลเมืองไทย ซึ่งตำรวจจับกุมตัวได้และหากพบความผิดจริง อาจต้องรับโทษที่ไทย

เบื้องต้น มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าจริงและทำเพียงคนเดียว แต่ยังไม่บอกว่าชิ้นส่วนอื่นของศพถูกทิ้งไว้ที่ใดบ้าง

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-ภูมิ) จังหวัดสุรินทร์ พบนางเสย เจนจบ แม่ของผู้ตาย อยู่ในอาการเศร้าเสียใจ บอกว่า ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งเงินกลับมาเดือนละ 5,000-6,000 บาท เพื่อเลี้ยงดูพี่น้องที่พิการ และลูกผู้ตายวัย 3 ขวบเพราะเลิกรากับสามีไปแล้ว ส่วนพ่อผู้ตายก็เพิ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่คิดว่าจะได้รับข่าวร้ายอีก

นายธานินทร์ คงกระพัน พี่ชายผู้ตาย เล่าว่า สถานกงสุลประสานงานมาบอกว่า หากจะนำศพกลับมาค่าใช้จ่ายสูงนับแสนบาท แต่ครอบครัวไม่มีเงินมากขนาดนั้น ส่วนจะนำกระดูกกลับมาค่าใช้จ่ายก็หลายหมื่น แต่เบื้องต้น ครอบครัวไปกู้เงิน 30,000 บาท มาไว้ก่อน

ญาติเผยครอบครัวยากจนไม่มีเงินรับศพ "หมอนวดสาว" ถูกฆ่าที่โปรตุเกสกลับบ้าน