ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก "เดอะบิ๊ก" ปาเกียว 10 ปี

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัว นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา อายุ 43 ปี หรือ เดอะบิ๊ก อดีตประธานสโมสรทีมฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ในศึกไทยลีก เจ้าของฉายา "ปาเกียว เมืองไทย" จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในฐานะจำเลยความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม หลังจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 10 ปี ไปก่อนหน้านี้

โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 21 กรกฎาคม 2557 จำเลยกับพวก ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ร่วมกันปลอมเอกสารตั๋วแลกเงินทั้งฉบับของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แบงก์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด คิดเป็นเงินไทย 3,200 ล้านบาท ไปแสดงต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินของ บริษัท 2,100 ล้านบาท โดยจำเลยกับพวกร่วมกันนำมาหลอกขาย ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ชพค. เพื่อประวิงเวลา และปกปิดความผิด ไม่ให้ ชพค. ยกเลิกสัญญาซื้อขาย

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายสัมฤทธิ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ซึ่งนอกจากจะใช้ตั๋วแลกเงินปลอม 3,200 ล้านบาทแล้ว ยังมีการนำหุ้นของสโมสรฟุตบอลเรดดิ้งไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อขอเพิ่มวงเงินของตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 400 ล้านบาท

ศาลชั้นต้นพิพากษามาศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุกนายสัมฤทธิ์ 10 ปี

ศาลอุทธรณ์พิพากษา "ปาเกียว เมืองไทย" คุก 10 ปี ปลอม-ใช้ตั๋วเงินปลอม