ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพระครูพนมศิลาจารย์ (หลวงตาสันต์) วัดป่าเขาโต๊ะ หมู่ที่19 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่ามีแก๊งมอดไม้แอบลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงไนป่าข้างๆวัด ห่างจากวัดไปทางทิศตะวันตกประมาณ 600 เมตร เป็นไม้พะยูงขนาดใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร อายุกว่า 100 ปี ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
 
ที่บริเวณป่าดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้พบตอไม้พะยูงขนาดใหญ่ที่ถูกแก๊งมอดไม้ตัดไปแล้ว และไม้พะยูงท่อนหนึ่งยาวประมาณ 2 เมตร ถูกทิ้งอยู่ ส่วนที่แก๊งมอดไม้ตัดไปแล้วนั้นมีความยาวประมาณ 6 เมตร นอกจากนี้ยังพบขวดน้ำแก้วน้ำพลาสติก และซองบุหรี่ ซึ่งเป็นบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งของกัมพูชา ถูกทิ้งอยู่ในที่เกิดเหตุ
 
พระครูพนมศิลาจารย์ (หลวงตาสันต์) เจ้าอาวาสวัดป่าเขาโต๊ะ เผยว่า ป่าผืนนี้มีไม้พะยูงอยู่จำนวนมาก โดยทุกคืนจะมีเจ้าหน้าเฝ้าอยู่ทุกคืน โดยใน 1 สัปดาห์ จะมีเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนกันมาดูแลตลอดมีทั้ง ตำรวจ ทหาร ทหารพราน อส. หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.3 ชาวบ้านและชุด ชรบ. โดยจะจัดเวรยามหมุนเวียนกันดูแลตลอดทุกคืน แต่คืนวันศุกร์ที่ 30 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา เป็นเวรของผู้ใหญ่บ้านและชุด ชรบ. เวลาประมาณ 21.00 น.ขณะที่หลวงตาจำวัดอยู่ก็ได้ยินเสียงเหมือนต้นไม้ล้ม จึงได้พาพระลูกวัดและผู้ใหญ่บ้านที่เข้าเวรอยู่ออกเดินส่องไฟฉายตามทิศทางที่ได้ยินเสียงต้นไม้ล้ม แต่เดินวนอยู่หลายชั่วโมงจนดึกก็ไม่พบ เนื่องจากป่ามีพื้นที่กว้างมาก จึงยุติการค้นหา
 
จนมาเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 10.00 น. พระลูกวัด ได้เดินสำรวจอีกครั้ง จึงไปพบตอไม้พะยูงซึ่งถูกแก๊งมอดไม้ใจบาปตัดไปเสียแล้ว ตนรู้เสียดายมากๆ ที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะปกติจะมีต้นไม้ที่แก่ตายและล้มในป่าอยู่เสมอ ไม่คิดว่าจะเป็นแก๊งมอดไม้ออกมาอาละวาดอีก เพราะช่วงห้าหกเดือนที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าเงียบๆ ตนก็สบายใจมาระยะหนึ่ง แต่แล้วในที่สุดก็โดนจนได้ ทั้งเสียดายทั้งเสียใจ
 
นายสมพล สมนิยาม ผู้ใหญ่บ้านเขาโต๊ะ ม.19 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กล่าวว่า จากหลักฐานที่ทิ้งไว้บริเวณตอไม้ตนคิดว่า น่าจะเป็นแก๊งมอดไม้ข้ามมาจากฝั่งกัมพูชา และอาจจะมีคนในพื้นที่รู้เห็นด้วย ยอมรับว่าบางครั้งก็เหนื่อยก็ท้อ อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันเข้ามาดูแลให้เยอะๆ เพราะไม้พะยูงในป่าผืนนี้มีเยอะมาก และเป็นที่ต้องการของแก๊งมอดไม้แก๊งนี้มาโดยตลอด
 
 
Cr.สมศักดิ์/สุรินทร์