กลุ่มผู้เสียหาย เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจ สน.โคกคราม หลังถูกหลอกให้ร่วมหุ้นลงทุนผลิตอาหารเสริมจำหน่าย พบมีผู้เสียหายกว่า 200 คนทั่วประเทศ เสียหายเกือบ 100 ล้านบาท

วันที่ 14 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน นำหลักฐานการโอนเงิน และแผ่นโฆษณาเชิญชวนร่วมลงทุนผลิตอาหารเสริมมาให้กับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติม หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนโครงการสร้างรายได้ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่อ้างว่าจะนำไปผลิตอาหารเสริมออกมาจำหน่าย และจะจ่ายเป็นเงินปันผลตอบแทน ซึ่งมีผู้เสียหายถูกหลอกกว่า 200 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท

นางราตรี อ่อนพันธุ์ ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2559 ผู้ก่อเหตุได้มาชักชวนให้ร่วมลงทุนในโครงการสร้างรายได้จากการเป็นผู้ร่วมลงทุนสินค้าประเภทอาหารเสริม 3 ชนิด โดยเสนอขายหุ้นสินค้าตั้งแต่ราคา 175,000 และ 375,000 บาท ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลทุกสิ้นเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเปิดตัวสินค้าที่ห้างดังกลางกรุง โดยมีดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ ทำให้หลงเชื่อร่วมลงทุนไป

โดยเดือนแรกได้รับเงินปันผลกว่า 17,000 บาท ตามที่โฆษณาไว้ ซึ่งเป็นการจ่ายในรูปแบบเงินอิเลคทรอนิคส์ (e-wallet) หลังจากนั้นเงินปันผลเริ่มลดน้อยลงจากหลักหมื่นเหลือเพียง 1.31 บาท ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้รับเงินปันผล เมื่อสอบถามไปยังบริษัทอ้างว่า อยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนการตลาด โดยจะจ่ายเงินปันผลได้ในเดือนกรกฎาคม 2561 ไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 2,000 บาท แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินจึงมั่นใจว่าถูกหลอก จึงรวมตัวกันมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี

ขณะที่ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพฤติการณ์พบว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ โดยการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งจะเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย และประสานปปง. อายัดทรัพย์ผู้ถูกกล่าวหาไว้ก่อน

ผู้เสียหายถูกหลอกร่วมหุ้นผลิตอาหารเสริม หอบหลักฐานให้ข้อมูลเพิ่มที่ สน.โคกคราม