แพทย์เผยภาพเอกซเรย์คนไข้ เข้ารักษาด้วยอาการหายใจลำบาก มีเสมหะในคอ แต่กลับเจอพยาธิตืดหมู กระจายไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะที่บริเวณสะโพกและขา

จากที่มีข่าวในโลกโซเชียลว่ามีผู้ป่วยเป็นหญิงวัย 42 ปี มีอาการหายใจลำบาก คอไม่โล่ง มีเสมหะในลำคอ จึงเข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ซึ่งแพทย์ได้ทำการเอ็กซเรย์ พบว่าตามเนื้อตัวโดยเฉพาะที่ขาทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งผิวหนังตามหน้าอก มีพยาธิตัวตืดไชชอนไปอยู่ตามกล้าเนื้อเต็มไปหมด เป็นที่น่าสยองอย่างมาก สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้ที่เห็นข่าวดังกล่าว และมีการแสดงความคิดเห็นพร้อมกับแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก

นายแพทย์วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ผู้ป่วยเป็นหญิงอายุประมาณ 42 ปี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอพรานกระต่าย จากนั้นถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ทางโรงพยาบาลเอ็กซเรย์แล้วพบว่าเป็นพยาธิตัวตืด สาเหตุเกิดจากผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีไข่พยาธิติดเข้าไป

จากนั้นตัวพยาธิก็ไชไปอยู่ส่วนต่างๆของร่างกาย และฝังตัวเป็นถุงน้ำพออายุประมาณ 3 เดือนก็ตาย จากนั้นก็มีแคลเซี่ยมมาเกาะตามภาพที่เห็น ยังดีที่พยาธิพวกนี้ชอนไชมาตามลำตัว ถ้าเกิดไชไปอยู่ที่สมองจะทำให้มีอันตรายมาก เพราะจะทำให้มีอาการทางประสาท อาจะจะมีอาการชักและเลือดออกในสมองได้

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ทำให้ไข่พยาธิเข้าไปในร่างกายได้ก็ มีหลายประการ เช่น รถดูดส้วมเมื่อดูดมาแล้วก็ปล่อยทิ้งเรี่ยราดทั่วไป ไข่พยาธิเหล่านี้จะไปเกาะอยู่ตามพืชผักผลไม้และของกินต่างๆ เมื่อคนกินเข้าไปก็จะแพร่ในร่างกาย รวมทั้งคนที่มีพยาธิตัวตืดในลำไส้เมื่อเช้าห้องน้ำล้างมือไม่สะอาดก็จะกินเข้าแล้วก็จะไชไปตามส่วนต่างๆของร่างกายได้

เช่นเดียวกับหมูดิบเมื่อหมูกินไข่พยาธิเข้าไป ตัวพยาธิก็จะไชชอนไปตามส่วนต่างๆของหมู ทำให้หมูมีพยาธิฝัวตัวอยู่ หรือที่เรียกกันว่าหมูเป็นโรคสาคู ซึ่งอันตรายมากห้ามกินเด็ดขาด และการกินหมูสุกๆดิบพยาธิจะติดเข้าไปในร่างกายคนด้วย ดังนั้นจึงควรปรุงอาหารให้สุกเสียก่อน ส่วนพืชผักผลไม้ก็ต้องล้างให้สะอาดด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันไข่พยาธิติดมาด้วย