ชาวนาในพื้นที่ ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อนหนัก เนื่องจากฝนทิ้งช่วงนานกว่า 4 เดือน ทำให้ต้นข้าวขาดน้ำยืนต้นตายเกือบ 2 หมื่นไร่ จำใจตัดใบข้าวที่เหี่ยวเฉาและวัชพืชที่ขึ้นแซม เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ บางคนลงทุนกู้เงินซื้อเครื่องสูบน้ำ หวังสูบหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่เหลือ

ถึงแม้หลายพื้นที่จังหวัดจะประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ชาวนาในพื้นที่ทั้ง 15 หมู่บ้าน ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ กำลังเดือดร้อนหนัก เพราะประสบปัญหาภัยแล้งกลางฤดูฝน เนื่องจากฝนทิ้งช่วงต่อเนื่องยาวนานกว่า 4 เดือน ทำให้ต้นข้าวที่กำลังโต แห้งเหี่ยว ทยอยแห้งตายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตั้งแต่หว่านกล้าและดำนามาได้ 3 เดือนกว่า มีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่มีฝนตกลงมาภายในสัปดาห์นี้ ต้นข้าวอาจจะแห้งตายขยายวงกว้างมากขึ้นกว่านี้ คาดว่า ปีนี้นาข้าวที่เพาะปลูกไว้คงไม่ได้เก็บเกี่ยวอย่างแน่นอน

ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวกว่า 26,200 ไร่ ประสบภัยแล้งทั้งตำบล ทำให้ต้นข้าวยืนต้นตายเกือบ 2 หมื่นไร่ เกิดอาการใบไหม้ วัชพืชขึ้นเต็มแปลงนา ทำให้ต้องตัดใบข้าวและวัชพืช แล้วนำเศษใบข้าว เศษวัชพืชไปเป็นอาหารเลี้ยงวัว-ควาย ซึ่งดีกว่าทิ้งไว้ในทุ่งนาให้แห้งตาย โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยในปีนี้ ถือว่าวิกฤตหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา และยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยดูแลแต่อย่างใด ซึ่งชาวนาต้องช่วยเหลือตัวเอง ขณะที่บางรายต้องไปกู้เงินนอกระบบ เพื่อมาสูบน้ำจากฝายเข้าแปลงนา ทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งหนี้ ธกส. ที่กู้มาลงทุนปลูกข้าวทำนาปี ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ในพื้นที่ เริ่มมีความกังวล และเกิดความเครียด กลัวว่าจะไม่สามารถนำเงินไปใช้หนี้ก้อนใหญ่ได้ทันในปีนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน

ด้านนายมานพ จูประโคน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย พร้อม ว่าที่ ร.ต.วินัย เกียรติกำจร ปลัด อบต. เจ้าหน้าที่ และผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงสำรวจแปลงนาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง พบว่า ขณะนี้ชาวบ้านทั้ง 15 หมู่บ้าน ในตำบลโคกขมิ้น กำลังประสบปัญหาข้าวยืนต้น แห้งตาย อย่างต่อเนื่อง จากการขาดน้ำเพราะฝนทิ้งช่วงติดต่อกันนานกว่า 4 เดือนแล้ว นอกจากนี้ แหล่งเก็บน้ำ ฝาย ลำห้วย ที่มีในพื้นที่ ที่เคยเป็นแหล่งน้ำสำหรับเกษตรกร ก็เกิดแห้งขอดไม่มีน้ำเหลือให้ใช้ไปช่วยเลี้ยงต้นข้าวได้อีกแล้ว

นายมานพ กล่าวว่า ต.โคกขมิ้น ปีนี้ ถือว่าวิกฤตแล้งหนักในรอบ 8 ปี ซึ่งทาง อบต.จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านโดยเร่งด่วน เพราะถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ไม่มีฝนตก พื้นดินขาดน้ำ ไม่มีน้ำขังในแปลงนา และต้นข้าว หญ้า วัชพืชทยอยแห้งเหี่ยวตายทุกวัน

 

Cr.สุรชัย/บุรีรัมย์