สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ภาพรวม 4 อำเภอ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเวลา 13.00 น. จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ ระดับน้ำอยู่ที่ 11.87 เมตร ลดลงจากช่วงเช้าถึง 10 เซนติเมตร ภายในระยะเวลา 6 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมนายอำเภอบุ่งคล้า รวมถึงหน่วยทหาร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่อำเภอบุ่งคล้า พบว่าระดับลดลงเช่นกัน โดยภาพรวมทั้ง 4 อำเภอที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย

ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ (ปภ.) ได้สรุปข้อมูลพื้นที่ประสบภัยและผลกระทบจากแม่น้ำโขงที่เอ่อหนุนลำน้ำสาขา โดยมีจำนวน 5 อำเภอคือ อำเภอเมืองบึงกาฬ, อำเภอบุ่งคล้า, อำเภอศรีวิไล, อำเภอปากคาด และอำเภอโซ่พิสัย โดยคิดเป็น 23 ตำบล 126 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบโดยเฉพาะนาข้าว 9,928 ไร่, พืชไร่ 3,188 ไร่ และบ่อปลาอีก 305 ไร่ มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวน 2,460 ครัวเรือน 8,160 คน ซึ่งอำเภอเมืองบึงกาฬ ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ด้านนายวุฒิพงศ์ เกษสัญชัย ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบึงกาฬ (ธ.ก.ส. บึงกาฬ) กล่าวถึงมาตราการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ว่า ในเบื้องต้นขอให้พี่น้องเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ไปแจ้งความเสียหายที่สำนักงาน ธ.ก.ส. ที่สาขาซึ่งตนเองเป็นสมาชิกอยู่ หรือทางสำนักงานเกษตรอำเภอ เกษตรตำบล ทั้งนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 กับ ธ.ก.ส. จะได้รับวงเงินประกันชดเชยความเสียหาย ไร่ละ 1,260 บาท สำหรับการช่วยเหลือดูแลเกษตรกรในลำดับถัดมาคือ การขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ และสำหรับการฟื้นฟูเกษตรเพื่อให้กลับมาประกอบอาชีพได้ปกติ ธนาคารก็มีโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรทุกราย โดยต้นลดดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 ต่อปี สำหรับต้นเงินกู้ 300,000 บาทแรก หรือจะปรับโครงสร้างหนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ประสบภัยดังกล่าว โดยจะพิจารณาเป็นรายบุคคล