เจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินฝ่าสายฝน เข้าไปรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่มีอาการวิกฤติ เสี่ยงต่อการเสียชีวิต จำนวน 2 ราย ที่พักรักษาตัว อยู่ที่ สุขศาลาพระราชทาน บ้านเลตองคุ ตั้งอยู่แนวชายแดนไทย-เมียนมา

ทีมแพทย์ชุดสกายดอกเตอร์ จังหวัดตาก และหน่วยบินตำรวจจังหวัดตาก กองบินตำรวจ ได้นำเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล ของหน่วยบินตำรวจจังหวัดตาก ไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีอาการวิกฤติ เสี่ยงต่อการเสียชีวิต จำนวน 2 ราย ที่นอนพักรักษาตัว อยู่ที่สุขศาลาพระราชทาน บ้านเลตองคุ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งตั้งอยู่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ติดกับรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา

โดยรายแรก เด็กชายจอดานุ (ไม่มีนามสกุล) เป็นชาวเมียนมา อายุ 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่กับผู้ปกครอง บริเวณแนวชายแดน ใกล้หมู่บ้านเลตองคุ ซึ่งก่อนไม่สบายประมาณ 7 ชั่วโมง ได้รับประทานขนมปัง และเกิดลำลัก ชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว ผู้ปกครอง จึงรีบนำมาขอความช่วยเหลือ ที่สุขศาลาพระราชทาน ในหมู่บ้านเลตองคุ

ส่วนอีกรายคือ เป็นชายอายุ 59 ปี ชาวบ้าน บ้านเลตองคุ เส้นเลือดในสมองแตก และหมดสติ ไม่รู้สึกตัว หายใจลำบาก แขนซ้ายอ่อนแรง อาการทรุดหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตซึ่งการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สุขศาลาพระราชทานบ้านเลตองคุ ได้ใช้วิทยุสื่อสาร ประสานขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลอุ้มผาง เพื่อขอรับการสนับสนุน

โดยระหว่างทางที่บินไปรับผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ต้องบินฝ่าสายฝน นักบินต้องอาศัยความชำนาญการบินเป็นพิเศษ โดยใช้เวลาบินไป-กลับ รวม 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำผู้ป่วยวิกฤติ ฉุกเฉินทั้ง 2 ราย ออกจากพื้นที่ มายังหน่วยบินตำรวจจังหวัดตาก จากนั้นได้นำขึ้นรถพยาบาล นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ทั้งนี้ หากลำเลียง ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ออกจากหมู่บ้านเลตองคุ โดยใช้การเดินทางภาคพื้นดิน คาดว่า จะใช้เวลามากว่า 10 ชั่วโมง ประกอบกับถนนเป็นดินโคลนเนื่องจากฝนตกหนัก อาจทำให้ผู้ป่วย เสียชีวิตระหว่างทางได้

เฮลิคอปเตอร์บินฝ่าสายฝน รับผู้ป่วย 2 ราย ที่ชายแดนไทย-เมียนมา