เจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกู้ซากชิ้นส่วนเฮลิคอปเตอร์ของทีมเหยี่ยวข่าว 7 สี ที่ประสบอุบัติตกกลางทุ่งนา จ.ขอนแก่น แล้วเสร็จก่อนส่งมาเก็บรักษาเพื่อตรวจสอบที่สนามบินขอนแก่น

ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (20 ก.ค. 61) เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยประชาชนที่เป็นจิตอาสาชาวตำบลวังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่นกว่า 100 คน ร่วมกันปูพรมเข้าเก็บกู้ซากและเศษชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์ของทีมเหยี่ยวข่าว 7 สี ที่ประสบอุบัติตกลงกลางทุ่งนา ในพื้นที่บ้านหูลิง ต.วังแสง อ.ชนบท เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้กัปตันและผู้โดยสารเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ศพ ซึ่งมีชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์ตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุ่งนา

การเข้าเก็บกู้ซากเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่ยังได้ใช้รถแบคโฮตัก และเคลื่อนย้ายซากเครื่องที่มีขนาดใหญ่จากจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ไปใส่บนรถบรรทุกของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องที่มีขนาดเล็กได้ให้จิตอาสาช่วยกันเก็บใส่ในถุงพลาสติกสีดำ และหากพบชิ้นส่วนมนุษย์ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำบรรจุในถุงพลาสติกสีแดง ก่อนจะนำมารวมกันกับชิ้นส่วนอื่นๆ เพื่อนำซากและชิ้นส่วนทั้งหมด ใส่รถบรรทุกที่จัดเตรียมไว้ ก่อนเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาที่ศูนย์ฝึกการบิน ภายในท่าอากาศยานขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

ทางด้านว่าที่ร้อยตรีอัธยา ลาภมาก ผอ.ท่าอากาศยานขอนแก่น บอกว่า ขณะนี้ได้คืนพื้นที่ในจุดที่เกิดเหตุให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากการกู้ซากอากาศยานแล้วนั้นแล้วเสร็จในภาพรวมทั้งหมด จากนี้ไปคือการประสานให้บริษัทฯ ผู้ผลิตเครื่องบิน บริษัทฯ เจ้าของอากาศยาน นำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาแสดงและชี้แจงให้กับคณะกรรมการสอบสวนได้รับทราบ รวมทั้งการเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านอากาศยาน มาทำการร่วมตรวจสอบตามขั้นตอน

ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายในด้านต่างๆ ต้องรอรายละเอียดที่เป็นเอกสารหลักฐานต่างๆ สำหรับกล่องดำหรือกล่องบันทึกการส​​นทนาและกล่องบันทึกรายละเอียดของอากาศยานลำดังกล่าวนี้นั้นขณะนี้ยังคงไม่พบ โดยผลการสอบสวนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้คณะกรรมการสอบสวนจะมีสรุปสาเหตุส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยขณะนี้ยังคงไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้

ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ภายหลังจากแพทย์ได้ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากศพมีสภาพไม่สมบูรณ์ พบว่าข้อมูลดีเอ็นเอตรงตามที่เจ้าหน้าที่บันทึกไว้ตั้งแต่วันแรกที่พบศพ ซึ่งหลังจากเสร็จกระบวนการทั้งหมด บรรยากาศบริเวณหน้าแผนกนิติเวช เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีทีมข่าว พร้อมกับบรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิตมารอรับศพ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิด

โดยเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) มีการขอรับศพกลับไปทั้งหมด 3 ราย โดยรายแรก คือนายสำเนา น้อยสกุล ผู้โดยสาร ญาตินำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด วัดโพธิ์ศรี อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี นายเสกสรร วรรณา นักบิน ญาตินำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่เมืองเพชรบูรณ์ และ พันตำรวจเอก สินสมุทร สินเภตรา ผู้ช่วยนักบิน ญาตินำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่กรุงเทพมหานคร

ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ นายรณกิจ เพชรนิล ผู้โดยสาร ญาติสะดวกรับในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค.นี้ ญาติจะกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ จ.สมุทรสาคร บ้านเกิด