นายกรัฐมนตรี ตอบโต้ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กรณีกล่าวหาเดินสายดูดนักการเมือง ยืนยันไม่ดูดใคร เพราะไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น พร้อมให้ฝ่ายกฎหมายฟ้องเอาผิด"นายวัชระ เพชรทอง"เหตุกล่าวหาทุ่มงบ 4 หมื่นล้านตั้งพรรคทหาร ขณะที่ก่อนประชุมครม. มีกลุ่มศิลปินหญิงเข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว

กลุ่มศิลปินหญิง เข้าพบนายกฯ ประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว

ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (24 เม.ย.) กลุ่มศิลปินหญิง เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง เดินทางเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นวิทยุครอบครัวตามแนวทางที่ นายกฯ มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ มีสถานีวิทยุสำหรับครอบครัวให้เหมาะกับทุกช่วงวัย โดยจะเน้นให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ งานนี้ นายกฯได้ร่วมทำท่าเต้น "ปั้นข้าว" ตามเพลงดัง ของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปด้วย

จากนั้น ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป ได้จับมือ กับ พลเอก ประยุทธ์ เป็นเวลา 8 วินาที ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกัน โดยกลุ่มนักร้องสาว ได้ให้กำลังใจ พร้อมทั้งให้มีสุขภาพแข็งแรง

นายกฯโต้"อภิสิทธิ์"ดูดนักการเมือง ยันไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น

และ ภายหลังการประชุมครม. พลเอก ประยุทธ์ แถลงภยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า คสช. เดินสายใช้พลังดูดนักการเมือง โดยใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตัวล่อว่า ขอย้ำว่า ตนเองไม่ใช่เครื่องดูดอากาศหรือเครื่องดูดฝุ่น

และส่วนตัว ก็ไม่มีอำนาจที่จะไปบังคับนักการเมือง หรือ นักธุรกิจคนใด จึงเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล รวมถึงจะต้องพิจารณาด้วยว่าตามกฎหมาย นักธุรกิจสามารถสนับสนุนนักการเมืองได้จริงหรือไม่ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่

ตนไม่อยากให้ทุกคนไปใช้คำว่า "ดูด" ตามที่นักการเมืองพูดออกมา เพราะการจะกล่าวหาว่าใครดูดใคร ต้องไปดูว่าผลงานของพรรคการเมืองของเขาที่ผ่านมานั้น เป็นอย่างไร ตนเองเข้าใจว่า นักการเมืองต้องการที่จะเข้ามาทำเพื่อบ้านเมืองทุกคน แต่อาจติดอยู่ที่นโยบายพรรคหรือนโยบายของหัวหน้าพรรค

จึงขอให้กลับไปดูที่ผลงาน และขอให้ไปดูแลสมาชิกของท่านให้ดีที่สุด โดยยืนยันว่า ไม่ได้รังเกียจนักการเมือง แต่ขอให้ร่วมกันพัฒนาประเทศ และทำเพื่อประเทศชาติ

นายกฯขู่ฟ้อง "วัชระ" กล่าวหารัฐบาลทุ่นเงิน 4 หมื่นล้านตั้งพรรคทหาร

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า คสช. เตรียมสืบทอดอำนาจ โดยระดมเงินทุนตั้งพรรคทหารถึง 40,000 ล้านบาทว่า การจะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน จึงขอให้นำข้อมูลออกมาแสดงว่าเงิน 40,000 ล้านบาทมาจากไหน

โดย ยืนยันว่า โครงการทุกโครงการของรัฐบาลมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และยืนยันเต็มร้อยด้วยว่าตนเองไม่เคยทุจริต แต่หากอยู่ที่ระบบก็ต้องดำเนินการแก้ไขตามกระบวนการ และหากได้เงินมามากขนาดนั้น ควรนำเงินก้อนดังกล่าวมาดูแลประชาชนดีกว่านำมาตั้งพรรคการเมือง

ซึ่งเรื่องนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ กับนายวัชระที่เผยแพร่ ข้อความดังกล่าวออกมา เพราะเผยแพร่ข้อความที่เป็นเท็จเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงขอให้ระมัดระวัง เพราะส่วนตัวไม่อยากให้ใครเดือดร้อน และย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ขู่แต่ต้องการให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง

นายกฯแจงลงพื้นที่สุรินทร์-บุรีรัมย์ ต้นพ.ค.ไม่พบใครส่วนตัว-ไม่หวังผลการเมือง

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการประชุม ครม.สัญจร และลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และ บุรีรัมย์ ในวันที่ 7-8 พฤษภาคมนี้ว่า เป็นการลงพื้นที่ปกติ เหมือนการลงจังหวัดอื่นๆ ไม่มีการพบใครแบบส่วนตัวเพราะหากจะพบกัน ก็พบในพื้นที่วงกว้างเหมือนประชาชนทั่วไป ส่วนใครจะมาต้อนรับก็เป็นเรื่องของเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งตนเองนั้นก็ไม่หวังผลทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น และตนไม่สามารถตกลงอะไรกับใครได้ ขออย่าเอาผมไปเกี่ยวข้อง

หลัง นายกฯแถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้เดินออกจากโพเดียม อย่างอารมณ์ดี โดยผู้สื่อข่าวได้แซวว่า ดูนายกฯแก้มตอบไป ทำให้นายกฯกล่าวตอบว่า "ไม่ได้ไปเสริมสวยแบบเธอ" และตนคงไม่ไปดูดนักการเมืองอะไร เพราะยังไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคไหนเลย ส่วนจะไปเป็นหัวหน้าพรรคไหนหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่รู้