ตำรวจกระบี่บุกจับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในบ้านพักบนเขา ได้ของกลางหลายรายการพร้อมปืนสงคราม 2 กระบอก โดยสามารถจับหญิงสาวได้ 1 คน ส่วนอีก 4 วิ่งหนีได้ทัน ตรวจสอบพบเป็นเครือข่ายใหญ่ ในพื้นที่ จ.กระบี่,พังงา

พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัทน์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่ พร้อมตำรวจ สภ.อ่าวลึก ตำรวจ สภ.ปลายพระยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดและมีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง โดยผู้ต้องหามี 2 คน คือนางสาวสุวรรณรัตน์ ทองชิต อายุ 26 ปี นายบุญฤทธิ์ ทองล้วน อายุ 22 ปี ทั้งสอง บ้านอยู่ ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,226 เม็ด ยาไอซ์ 2 ถุงหนัก 81.17 กรัม อาวุธปืนคาร์บิ้น .30 จำนวน 1 กระบอก กระสุนคาร์บิ้น 20 นัด ปืนยาวอัตโนมัติ M-3 จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาด .45 จำนวน 34 นัด โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง อาวุธปืนขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก กระสุน .32 จำนวน 6 นัด และยึดรถยนต์กระบะ 2 คัน

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ ร่วมกับ ตร.อ่าวลึก และปลายพระยา ได้สนธิกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านของกลุ่มผู้ต้องสงสัยมียาเสพติด ซึ่งบ้านอยู่บนภูเขา เลขที่ 45/5 ม.5 ต.นาเหนือ รอยต่อ อ.ทับปุด จ.พังงา เมื่อไปถึงพบคนในบ้านมีด้วยกัน 5 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง เหลือเพียง นส.สุวรรณรัตน์ ที่วิ่งหนีไม่ทัน เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นบ้านพบยาบ้าและยาไอซ์ในบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นเมื่อไปค้นรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู โฟร์วิล ทะเบียน บธ 5619 กระบี่ พบที่ช่องเก็บของใต้เบาะหลังมีอาวุธปืนคาร์บิล และ M-3 พร้อมกระสุนซุกซ่อนอยู่ ระหว่างนั้นปรากฏว่านายบุญฤทธิ์ ทองล้วน ได้ขับรถกระบะอีกคันยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน ถล 3712 กทม. มาที่เกิดเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด .32 พร้อมกระสุน จึงได้จับกุมไว้อีก 1 คน

เบื้องต้นทางผู้ที่หลบหนีนั้น มีสามีของนางสาวสุวรรณรัตน์ คือนายอดิศักดิ์ ทองคล้า และเพื่อนของนายอดิศักดิ์ คือ นายสันติชัย การพร้อม นายอนันตชัย ชูสังข์ และนายสถาพร หอยทอง โดยได้มาพักกันอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อส่งขายยาให้กับกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ในพื้นที่ อ.ทับปุด จ.พังงา และ อ.อ่าวลึก อ.ปลายพระยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า กลุ่มผู้ค้ากลุ่มนี้ มีอาวุธปืน เนื่องจากนายอดิศักดิ์นั้น มีหมายจับในคดีข่มขู่ด้วยอาวุธปืนและบุกรุกอยู่ และมีวัยรุ่นเข้าออกบ้านจำนวนมาก เพื่อซื้อยาเสพติด จึงได้วางแผนเข้าปิดล้อม แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปในป่าได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ค้ารายนี้ต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัทน์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามดูพฤติกรรมมาระยะหนึ่ง จนมั่นใจว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มค้ายาเสพติด และมีอาวุธปืนอยู่ จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุมเข้าตรวจสอบ หลังจากนี้จะส่งปืนทั้ง 3 กระบอกไปตรวจพิสูจน์วิถีกระสุนที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเทียบกับคดีที่เคยเกิดขึ้น ว่าตรงกับคดีใดบ้าง เพราะมีความน่าเชื่อว่า อาจเคยนำไปใช้ก่อเหตุในช่วงก่อนหน้านี้

Cr.เวนิช/กระบี่