สำนักชลประทานที่ 1 เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำ จังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน ร่วมประชุมแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมขอกุญแจควบคุมเปิด-ปิด ประตูปากคลองส่งน้ำในลำน้ำปิงทั้งหมด คืนจากผู้ควบคุมในแต่ละพื้นที่ ตลอดช่วงฤดูแล้ง

ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น เริ่มส่งผลกระทบกับกลุ่มเกษตรกรที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ทำให้ นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้งสองจังหวัด รวมทั้งการประปาส่วนภูมิภาคเขต 9 และ ผู้แทนฝ่ายปกครองทุกอำเภอ ร่วมประชุมด่วน เพื่อกำหนดแผนแก้ปัญหาภัยแล้ง หลังจากพบว่า ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำในช่วงฤดูแล้ง อยู่ในภาวะเสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร

นายจานุวัตร กล่าวว่า แม้ปัจจุบันน้ำสาขาที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปิง 7 สาขา มีมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ต้องส่งน้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ลงสู่แม่น้ำปิง ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อให้เกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำได้ใช้น้ำ ตามแผนการปลูกพืชฤดูแล้ง 101,088 ไร่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และ 58,010 ไร่ในจังหวัดลำพูน (รวมทั้งสองจังหวัด 159,098 ไร่) โดยเกษตรกรปลูกพืชไปแล้ว กว่า 1 แสน 5 หมื่น ไร่

ฤดูแล้งปีนี้ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จัดรอบเวรส่งน้ำลงน้ำปิงทั้งหมด 23 รอบเวร รวม 95 ล้านลูกบาศก์เมตร และ กำหนดให้วันเสาร์และอาทิตย์เป็นวันงดใช้น้ำ เพื่อให้สามารถส่งน้ำไปถึงพื้นที่ด้านท้ายน้ำ

นอกจากนี้ได้กำหนดหลายมาตรการเพื่อควบคุมการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่นำมาใช้ คือ สำนักงานชลประทานที่ 1 จะขอคืนกุญแจควบคุมเปิด-ปิด ประตูปากคลองส่งน้ำในลำน้ำปิงทั้งหมดจากผู้ควบคุม ในแต่ละพื้นที่ (กลุ่มผู้ใช้น้ำ) ตลอดช่วงฤดูแล้ง เพื่อป้องกันปัญหาการแย่งน้ำของกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้งสองจังหวัด

เนื่องจากปีที่ผ่าน ๆ มาเกิดปัญหาขึ้นเป็นประจำ เพื่อให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนได้รับน้ำอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงและร่วมกันผ่านวิกฤตไปด้วยกัน

ชลประทานยึด กุญแจ เปิด-ปิด ประตูปากคลองส่งน้ำคืนแก้ปัญหาศึกแย่งน้ำ