ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย เอี่ยวอาวุธฉะเชิงเทรา เป็นไปตามพยานหลักฐาน ชี้เป็นผู้ต้องหากลุ่มเดิมที่เคยเคลื่อนไหว เชื่อไม่มีนัยทางการเมือง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) เผยถึงกรณีการออกหมายจับผู้ต้องหาคดีอาวุธสงคราม ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยระบุว่า กรณีดังกล่าว มี พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบดูแลด้วยตนเอง ซึ่งได้ทำการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหาที่กองบังคับการปราบปราม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา พร้อมได้ขอศาลอนุมัติหมายจับไปแล้ว 5 ราย เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.60 ซึ่งประกอบด้วย

1.นายจักรภพ เพ็ญแข

2.นายมนัส หรือ พลโทมนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3

3.นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต หรือ เสธไก่

4.นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือ เปี๊ยก กาละเม

5.นายสมเจตน์ หรือ สน คงวัฒนะ อายุ 63 ปี

โดยยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ชัดเจน พร้อมทั้งจากการตรวจสอบอาวุธที่ยึดได้ พบมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์คดีทางการเมืองเมื่อปี 2557 เช่น ชิ้นส่วน หรือซีเรียลนับเบอร์ของอาวุธ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่สามารถตอบได้ว่า อาวุธที่ยึดได้ดังกล่าวจะเตรียมนำไปก่อเหตุที่ไหนหรือมีเป้าหมายเพื่อก่อเหตุกับกลุ่มใด แต่เชื่อว่าโดยพื้นฐานของ นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาตามหมายจับนั้น เป็นกลุ่มการเมืองที่รุนแรงอยู่แล้ว

พร้อมเชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่ทำการออกหมายจับนั้นเป็นกลุ่มเดิม ที่เคยมีความเคลื่อนไหวหรือกลุ่มที่เจ้าหน้าที่จับตามองอยู่แล้วเช่นกัน ส่วนกรณีดังกล่าวจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่า การตรวจพบอาวุธที่ผ่านมานั้น ก็มีการตรวจพบเป็นระยะ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นการส่งสัญญานใดๆ หรือมีนัยทางการเมืองใดๆ

พลตำรวจเอก จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ได้มีความเข้มงวดตรวจตราดูแลเพื่อป้องการการเกิดเหตุตลอดเวลาอยู่แล้ว เช่น การตั้งด่านความมั่นคง พร้อมมีการจับตาทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเมือง, ทุกกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวและด้านความมั่นคง

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุถึงกรณีที่มีการพบการบุกรุกพื้นที่ราชพัสดุ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยระบุว่า กรณีดังกล่าวตนได้มอบหมายให้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร. ) ทำการตรวจสอบแล้ว จะให้มีการดำเนินการเป็นไปตาม พรบ.ป่าไม้ และ กฎหมายที่ดิน พร้อมยืนยันจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อละเว้น

ซึ่งจากการที่ได้รับรายงานมานั้น พบว่า มีการก่อสร้างบ้าน 4 หลัง และ มีการบุกรุกพื้นที่ปลูกต้นปาล์มน้ำมันประมาณ 1 พันกว่าไร่ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท พร้อมให้มีการขยายผลเพื่อหานายทุนหรือผู้เกี่ยวข้องต่อไป.

ผบ.ตร.ยันหมายจับ "จักรภพ" และพวก เอี่ยวอาวุธ หลักฐานชัด ไม่มีนัยการเมือง