นายกรัฐมนตรี ยืนยันเดินหน้าเลือกตั้งตามโรดแมปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่เอกชน และประชาคมโลก พร้อขอทุกฝ่ายร่วมมือ และหันหน้าพูดคุยหารือกัน อย่างมีเหตุมีผล อย่าพูดจาบิดเบือน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนว่า การเดินหน้าทางการเมืองสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็ปจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคเอกชนและประชาคมโลก ดังนั้นทุกคนควรหารือกันว่า วันข้างหน้าเราจะอยู่กันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ภาคธุรกิจ ประชาชน รัฐบาล และคสช.ต้องมีหนทางร่วมมือกัน ไม่ใช่ติติงกันไปมา 

รัฐบาลนี้ไม่ได้มีนโยบายไปต่อสู้ ปิดกั้น กีดขวาง แต่อย่ามาบิดเบือนซึ่งกันและกัน ต่อไปทุกอย่างจะต้องมีการพูดคุย เจรจา หาหนทางออกกันได้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ หันหน้าพูดคุยหารือกัน รับฟังกันอย่างมีเหตุมีผล และด้วยหลักการ ด้วยเหตุผล สิ่งที่ตนอยากเห็นมากที่สุดจากพี่น้องประชาชนคือ การเตรียมตัวให้พร้อมในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และความจริงที่เกิดขึ้นในอนาคตด้วย 

พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนแห่ง “การรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว” ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า “ครอบครัว หรือบ้าน” เป็นสถาบันที่เล็กที่สุดของสังคม แต่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ

ทั้งนี้ นอกจาก “อวัจนภาษา” เช่น การกอด หอม แสดงความรักต่างๆ แล้ว “วัจนภาษา” หรือคำพูดดีๆ สำหรับคนในครอบครัว เช่น เหนื่อยไหม – รักนะ – มีอะไรให้ช่วยไหม – เก่ง ดีเยี่ยมสามารถใช้ได้ทั้งหมด หรือ การพูดคำว่า "ขอบคุณนะ – ขอโทษนะ" โดยไม่ควรใช้อารมณ์ใส่กัน และควรช่วยสร้างกำลังใจ และเป็นพลังให้กับทุกคนในครอบครัว นะครับ 

ส่วนคำพูดที่ไม่ดี ที่ทำลายจิตใจ ควรลด – ละ – เลิกเสีย เพราะเป็น จุดเริ่มต้นของ “การใช้อารมณ์ เหนือเหตุผล”และยังนำไปสู่การใช้กำลังกับคนในบ้าน ลุกลามไปสู่การใช้ความรุนแรงในสังคมตามท้องถนน อีกหนึ่งปัญหาคือการใช้กำลังคุกคามทางเพศที่ยังมีให้เห็นอยู่เสมอ เช่น การกักขัง ข่มขืน ข่มขู่ ด่าทอ ทุบตี หรือ ทำอนาจาร

สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชีวิต ของประเทศชาติ และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

โดยรัฐบาลได้เปิดช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน คือ ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ (สายด่วน 1567) รวมถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นอกจากนี้ เห็นว่าบริษัท หรือผู้ประกอบการเอง ก็ควรจัดให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียน ในสถานประกอบการของตน เพื่อขจัดและแก้ไขปัญหา หรือบรรเทาผลกระทบ ด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น ก่อนจะบานปลาย

นายกฯรายการศาสตร์พระราชา