พรรคเพื่อไทยยังออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกฯ เร่งปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีหลายเรื่องที่พรรคการเมืองต้องทำให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด พร้อมระบุเตรียมร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความ หาก คสช. ยังยืดเวลาปลดล็อกออกไป

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คสช.ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ว่า หากคสช. ยังยืดระยะเวลาการปลดล็อกคำสั่งประชุมพรรคออกไป ทางพรรคเพื่อไทยเตรียมแนวทางที่จะไปยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องนี้ว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะขณะนี้กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้แล้ว แต่คสช.ยังคงไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมทางการเมือง

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองยังรอคอยสัญญาณปลดล็อกจากทาง คสช.อยู่ เพราะมีเรื่องให้พรรคการเมืองต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองอีกหลายเรื่อง ซึ่งต้องทำให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่จนถึงขณะนี้ คสช.ยังไม่ปลดล็อก โดยอ้างถึงความมั่นคง แต่ไม่ได้คำนึงว่าบ้านเมืองต้องก้าวไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รำคาญนักการเมืองที่ออกมาเรียกร้องให้ปลดล็อกพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้นั้น ผลโพลหลายสำนัก ต่างสะท้อนความเห็นของประชาชน ในทิศทางเดียวกันว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 70 อยากให้คสช.ปลดล็อกพรรคการเมือง

แต่ไม่ทราบว่า พลเอก ประยุทธ์ จะรำคาญเสียงของประชาชนด้วยหรือไม่ เพราะความงดงามของระบอบประชาธิปไตยคือการรับฟังเสียงของประชาชน แสดงให้เห็นว่า วันนี้ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองที่เรียกร้องให้มีการปลดล็อกเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งเท่านั้น เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ เป็นปัญหาในขณะนี้ ประชาชนต่างสะท้อนว่า ต้องการให้พรรคการเมือง สามารถทำกิจกรรมได้เพื่อจะนำไปสู่การเลือกตั้งได้

ต่อให้พลเอก ประยุทธ์ จะหงุดหงิดรำคาญใจแค่ไหนก็ตาม แต่ควรรับฟังเสียงของประชาชนด้วย เพราะหากไม่เชื่อมั่นประชาชน ไม่เคารพและรับฟังเสียงของประชาชน จะทำให้คะแนนนิยมของพลเอก ประยุทธ์ลดต่ำลงเรื่อยๆ

ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า คำพูดของพลเอก ประยุทธ์ที่อ้างเหตุยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองว่า “ขอเอาเรื่องประชาชนก่อน การเมืองเอาไว้ทีหลัง” ทำให้ตนสิ้นสงสัยถึงพฤติกรรมของท่านผู้นำว่า

พลเอก ประยุทธ์ ไม่ทราบว่า การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน การจำกัดสิทธิทางการเมืองคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ท่านเพิ่งไปทำแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐตกลงจะปกป้อง และสนับสนุนสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน แต่ไม่ทันไรท่านกลับทำตรงข้ามกับสิ่งที่พูดไว้

ถ้าพลเอก ประยุทธ์กล้าไปเดินตลาดคนเดียวจะทราบว่า ประชาชนยากลำบากเพราะการยึดอำนาจ แต่หากอยากรู้ความจริงจากประชาชน ลองกำหนดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น และประกาศว่าท่านจะวางมือจากการเมือง ถ้าหุ้นตกแปลว่า พลเอก ประยุทธ์ เป็นที่ต้องการของประชาชน แต่ถ้าหุ้นขึ้น และสัญญาณทางเศรษฐกิจดีขึ้น นั่นคือคำตอบว่าใครเป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้านเมือง

ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า เรื่องการจดทะเบียนตั้ง"พรรคประชาชนปฏิรูป"เป็นพรรคการเมือง คงจะต้องรอให้ คสช.ปลดล็อกพรรคการเมืองก่อน และรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศระเบียบมารองรับตามกฎหมายลูกอีกครั้ง

แต่แม้จะมีเวลาน้อยก็ไม่เป็นอะไร เพราะทางกลุ่มมีเครือข่ายอยู่แล้ว หากคสช.ปลดล็อกเมื่อใด ก็จะเดินหน้าจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองทันที ยืนยันการที่คสช.ยังไม่ปลดล็อกจะไม่ส่งผลกระทบกับการตั้งพรรคใหม่แต่อย่างใด เพราะเราได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ส่วนรายชื่อสมาชิกพรรคและหัวหน้าพรรค ยังไม่สามารถพูดในตอนนี้ได้

"เพื่อไทย" เตรียมร้องศาลรัฐธรรมนูญ ตีความหาก คสช. ไม่ปลดล็อก