ก่อนที่จะมีการประชุมครม.สัญจร ที่จังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 22 ส.ค.ทางรัฐมนตรีหลายคนได้ลงพื้นที่ติดตามคืบหน้าการทำงานกันก่อน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา

ช่วงบ่าย วานนี้ (20ส.ค.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทางทั้งสิ้น 196 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตอนที่ 40 ตอนสุดท้ายของการก่อสร้าง ที่บริเวณริมถนนสายบายพาส สามแยกปักธงชัย-จอหอ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี นายอุเทน วรรณราช ผู้ช่วยนายช่างโครงการฯ ต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินการ

นายอุเทน กล่าวว่า ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 ตอนที่ 40 นี้ เป็นตอนสุดท้ายของการก่อสร้าง รวมระยะทาง 7.143 กิโลเมตร โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน แต่พบว่า การก่อสร้างล่าช้าจากแผนที่วางไว้ สาเหตุจากการเวนคืนที่ดินจากชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และติดขัดเรื่องการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูง แต่ยืนยันจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จในระยะเวลาที่กำหนดคือช่วงตุลาคม 2562 ซึ่งหากใช้มอเตอร์เวย์สายนี้เดินทางจะใช้เวลาเดินทางเพียง 127 นาที

ด้านนายอาคม กล่าวว่า การก่อสร้างถือว่า เป็นไปตามแผนงาน เชื่อว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการต้นปี2563 และหากช่วงใดก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนก็จะเปิดให้บริการก่อน ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการแล้วจะทำให้การเดินทางของประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะรายความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมาให้ที่ประชุมครม.รับทราบ และจะเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติร่างสัญญางานออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา รถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร วงเงิน 1 แสน 7 หมื่น 9 พันล้านบาท

ขณะที่นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปประชุมร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์ และแนวโน้มเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังให้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับสภาวะความต้องการของตลาดโลก

นอกจากนี้ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงตลาดมันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร สหกรณ์และองค์กรธุรกิจ ให้มีการรวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ และยกระดับราคาสินค้าเกษตรในประเทศให้สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป