ครอบครัว "ผอ.อ้อย" พากันไปยังชายแดนลาว เพื่อพิสูจน์โครงกระดูกปริศนา แต่ทางการลาว ยังไม่ให้เข้าพื้นที่ โดยระบุว่า ต้องมีกระบวนติดต่ออย่างเป็นทางการก่อน
ความคืบหน้าการตามหาตัว นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผู้อำนวยกองการศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังหายตัวไปนานกว่า 1 เดือน (3 ก.ค.)
ล่าสุด ตำรวจตระเวนชายแดน ทหาร และ เจ้าหน้าที่เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ได้พา นายวิทยา เกษแก้ว สามี ผอ.อ้อย และ ญาติ เดินเท้าบุกป่าฝ่าดง ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร เข้าไปยังพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว เพื่อขอดูศพหญิงนิรนาม ถูกห่อด้วยพลาสติก นำมาทิ้งไว้ ด้านสามเหลี่ยมมรกตอ.น้ำยืนจ.อุบลราชธานี
แต่เมื่อทั้งไปถึงชายแดนทางการฝั่ง สปป.ลาว แจ้งว่าไม่สามารถให้ข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว ได้ เนื่องจากไม่ได้มีการประสานมาอย่างเป็นทางการ ทำให้ทั้งหมด ต้องเดินทางกลับเข้ามา เพื่อไม่ให้มีปัญหาระหว่างประเทศ
นายวิทยา (สามี ผอ.อ้อย) กล่าวว่า การเดินทางเข้ามาในวันนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเนื่องจากเป็นป่าทึบ และ ยังมีฝนตกโปรยปรายลงมา อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ของลาวไม่อนุญาตให้เข้าไปที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ต้องการพิสูจน์ว่าศพดังกล่าวเป็นใคร หากเป็น ผอ.อ้อย จะรับศพกลับมาทันที
และยังมีรายงานว่า ช่วงที่เจ้าหน้าที่เดิินทางไปยังชายแดน พบ ถุงมือยางสีฟ้า จำนวน 3 คู่ และรองเท้ายาง 1 ข้าง มีร่องรอยการถูกเผา เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้นำไปตรวจสอบ
ส่วนในช่วงเช้า พลตำรวจตรี สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับมอบตัว ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี ที่ถูกออกหมายจับ หลังเจ้าหน้าที่พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ ผอ.อ้อย
เบื้องต้นถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว ลักทรัพย์ของผู้อื่น ปลอมเอกสารปลอม และ ทําลาย ซ่อนเร้นนำเอกสารของผู้อื่นไปใช้ อาจทำให้เกิดความเสียหาย เบื้องต้น ร้อยเอกศุภชัย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
โดยครอบครัว "ผอ.อ้อย" ระบุว่า หลังจากนี้จะเข้าพบอัยการกันทรลักษณ์ เพื่อขอคำปรึกษาทางคดี และเตรียมเข้าพบ ดีเอสไอ และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยเหลือ เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นทหาร และอยากให้กระทรวงกลาโหมสอบผู้ต้องหา เพื่อให้บอกจุดที่ฆาตกรรมหรือนำศพไปทิ้ง